GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
บทความ
เข้าสู่ระบบ
ผลการค้นหา : "Resident Evil 8: Village"
ผู้พัฒนา Capcom ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแบบตัวละคร Lady Dimitrescu แวมไพร์สาวใหญ่ขวัญใจชาวเน็ต
สำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักตัวละคร Lady Dimitrescu จากเกม Resident Evil 8: Village อีกแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงส่วนสูงกว่า 292 เซนติเมตร ทำให้แวมไพร์สาวใหญ่คนนี้ (ซึ่งใหญ่จริงๆ นั่นแหละ) กลายเป็นตัวละครขวัญใจชาวเน็ตชั่วข้ามคืน ที่มีมีมและสาวกแฟนบอยที่รอคอยให้เธอเหยียบย่ำอยู่เต็มไปหมด ล่าสุด ทางเว็บไซต์ IGN ก็ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ของเกมคุณ Tomonori Takano ที่เป็นคนออกแบบตัวละครเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและแนวคิดในการออกแบบตัวละคร ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจหลายอย่าง คุณ Takano บอกว่าทีมพัฒนาตัดสินใจได้ตั้งแต่ต้นๆ แล้วว่าอยากจะสร้างเกม Resident Evil ภาคใหม่ภายใต้ธีมแวมไพร์ในประสาทยุโรปโบราณ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ได้อยากจะเดินตามรอยของแวมไพร์ที่เห็นได้ในสื่อทั่วไปเช่นเดียวกัน สำหรับแรงบันดาลใจเบื้องหลังตัวละคร Lady Dimitrescu เขาบอกว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครในคอนเซฟต์ "แวมไพร์สาวผู้เย้ายวน" ที่มีความคลาสสิค แต่ก็อยากใส่ตัวตนของพวกเขาเองลงไปด้วย โดยเขาเลือกแหล่งอ้างอิงรูปลักษณ์ของตัวละครจากบุคคลและ/หรือตัวละคร 3 อย่างด้วยกัน แรงบันดาลใจแรกของพวกเขามาจาก Elizabeth Báthory ขุนนางหญิงชางฮังการีในศตวรรสที่ 16 ที่ได้รับขนานนามเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ว่ากันว่าคร่าชีวิตหญิงสาวในละแวกนั้นไปมากกว่า 650 คนเลยทีเดียว (ไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัดได้) โดยจากคำบอกเล่าของผู้คนในสมัยนั้น เธอมักจะจับเหยื่อมาทรมานและปลิดชีพด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมมากมาย ทั้งการทุบตี การใช้ไฟเผา หรือกระทั่งการกัดกินใบหน้าของเหยื่อ ก่อนจะนำเลือดของเหยื่อมาดื่มหรืออาบ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้เธอเป็นสาวไปตลอดกาล [caption id="attachment_78770" align="aligncenter" width="231"] ภาพวาดของ Elizabeth Báthory (วาดขึ้นในปี 1585)[/caption] แรงบันดาลใจแหล่งที่สองมาจากเรื่องเล่าสยองขวัญของชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับผีสาวร่างสูงที่ชื่อว่า Hashaku-sama โดยตามตำนานเล่าว่า Hashaku-sama จะมีรูปร่างเป็นหญิงสาวร่างสูง (เกินสองเมตร) ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับหมวกปีกกว้างสีขาว เธอมักจะหลอกหลอนเด็กหนุ่มหรือชายชราที่เธอหมายปอง และทำให้ชายผู้โชคร้ายเหล่านั้นเสียชีวิตลงอย่างปริศนาในเวลาไม่นาน [caption id="attachment_78771" align="aligncenter" width="202"] Hashaku-sama[/caption] สุดท้ายคือตัวละคร Morticia Addams ตัวละครแม่มดจากภาพยนตร์ Addams Family ที่รับบทโดยนักแสดง Anjelica Huston ในปี 1991 และ 1993 [caption id="attachment_78772" align="aligncenter" width="1024"] Anjelica Huston ในบท Morticia Addams (1991)[/caption] คุณ Takano กล่าวว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครวายร้ายที่แตกต่างจากวายร้ายเพศหญิงที่ผ่านๆ มาในซีรี่ส์ Resident Evil อย่าง Lisa Trevor ที่มีลักษณะเป็นปีศาจหน้าตาน่าเกลียดไปเลย หรืออย่าง Alexia Ashford ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่กลายเป็นปีศาจ แต่เขาอยากให้ Lady Dimitrescu อยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างตัวละครทั้งสอง ตรงที่แม้ว่าเธอจะมีรุปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากมนุษย์ปกตินัก แต่ก็มีความน่าเกรงขามและความเป็น "อมนุษย์" ที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน "ในการสร้างตัวละครใหม่ ผมและทีมงานต้องกลับไปวิเคราะห์ตัวละครปีศาจที่ผ่านๆ มาของเราทั้งหมด และตั้งคำถามกับตัวเองว่าพวกมันเหล่านั้นยังน่ากลัวอยู่จริงๆ ไหม หรือว่ามันเป็นความน่ากลัวที่ถูกใช้บ่อยจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วสำหรับผู้เล่น" คุณ Takano บอกว่าเขาและทีมงานจำเป็นต้องลบภาพจำของซอมบี้และอาวุธชีวภาพในหัวตัวเองออกไปทั้งหมด และเริ่มตั้งต้นคิดกันใหม่ว่าอะไรกันแน่ที่จะสามารถสร้าง "ความกลัว" ในใจของผู้เล่นได้ พวกเขาเลือกที่จะต่อยอดมาจากแนวคิด "ความชั่วร้าย" ที่อยู่เบื้องหลังเกม Resident Evil 7 อีกครั้ง และ Lady Dimitrescu ก็คือผลลัพธ์ของแนวคิดนั้น เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีหน้าตา "น่ากลัว" ซะทีเดียว แต่ก็ทำให้รู้สึกกลัวได้จากวาจาท่าทางอันเป็นอมนุษย์ของเธอ ทั้งนี้ คุณ Takano ก็ยอมรับว่าเขาและทีมออกแบบไม่คิดไม่ฝันเลยว่า Lady Dimitrescu จะได้รับความนิยมจากหมู่ผู้เล่นได้มากขนาดนี้ โดยส่วนตัวเขาเองยังรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เห็นแฟนๆ ออกความเห็นทำนองว่า "อยากโดนเธอวิ่งไล่จังเลย" Credit: IGN
11 Feb 2021
ผู้พัฒนา Capcom ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแบบตัวละคร Lady Dimitrescu แวมไพร์สาวใหญ่ขวัญใจชาวเน็ต
สำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักตัวละคร Lady Dimitrescu จากเกม Resident Evil 8: Village อีกแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงส่วนสูงกว่า 292 เซนติเมตร ทำให้แวมไพร์สาวใหญ่คนนี้ (ซึ่งใหญ่จริงๆ นั่นแหละ) กลายเป็นตัวละครขวัญใจชาวเน็ตชั่วข้ามคืน ที่มีมีมและสาวกแฟนบอยที่รอคอยให้เธอเหยียบย่ำอยู่เต็มไปหมด ล่าสุด ทางเว็บไซต์ IGN ก็ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ของเกมคุณ Tomonori Takano ที่เป็นคนออกแบบตัวละครเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและแนวคิดในการออกแบบตัวละคร ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจหลายอย่าง คุณ Takano บอกว่าทีมพัฒนาตัดสินใจได้ตั้งแต่ต้นๆ แล้วว่าอยากจะสร้างเกม Resident Evil ภาคใหม่ภายใต้ธีมแวมไพร์ในประสาทยุโรปโบราณ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ได้อยากจะเดินตามรอยของแวมไพร์ที่เห็นได้ในสื่อทั่วไปเช่นเดียวกัน สำหรับแรงบันดาลใจเบื้องหลังตัวละคร Lady Dimitrescu เขาบอกว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครในคอนเซฟต์ "แวมไพร์สาวผู้เย้ายวน" ที่มีความคลาสสิค แต่ก็อยากใส่ตัวตนของพวกเขาเองลงไปด้วย โดยเขาเลือกแหล่งอ้างอิงรูปลักษณ์ของตัวละครจากบุคคลและ/หรือตัวละคร 3 อย่างด้วยกัน แรงบันดาลใจแรกของพวกเขามาจาก Elizabeth Báthory ขุนนางหญิงชางฮังการีในศตวรรสที่ 16 ที่ได้รับขนานนามเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ว่ากันว่าคร่าชีวิตหญิงสาวในละแวกนั้นไปมากกว่า 650 คนเลยทีเดียว (ไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัดได้) โดยจากคำบอกเล่าของผู้คนในสมัยนั้น เธอมักจะจับเหยื่อมาทรมานและปลิดชีพด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมมากมาย ทั้งการทุบตี การใช้ไฟเผา หรือกระทั่งการกัดกินใบหน้าของเหยื่อ ก่อนจะนำเลือดของเหยื่อมาดื่มหรืออาบ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้เธอเป็นสาวไปตลอดกาล [caption id="attachment_78770" align="aligncenter" width="231"] ภาพวาดของ Elizabeth Báthory (วาดขึ้นในปี 1585)[/caption] แรงบันดาลใจแหล่งที่สองมาจากเรื่องเล่าสยองขวัญของชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับผีสาวร่างสูงที่ชื่อว่า Hashaku-sama โดยตามตำนานเล่าว่า Hashaku-sama จะมีรูปร่างเป็นหญิงสาวร่างสูง (เกินสองเมตร) ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับหมวกปีกกว้างสีขาว เธอมักจะหลอกหลอนเด็กหนุ่มหรือชายชราที่เธอหมายปอง และทำให้ชายผู้โชคร้ายเหล่านั้นเสียชีวิตลงอย่างปริศนาในเวลาไม่นาน [caption id="attachment_78771" align="aligncenter" width="202"] Hashaku-sama[/caption] สุดท้ายคือตัวละคร Morticia Addams ตัวละครแม่มดจากภาพยนตร์ Addams Family ที่รับบทโดยนักแสดง Anjelica Huston ในปี 1991 และ 1993 [caption id="attachment_78772" align="aligncenter" width="1024"] Anjelica Huston ในบท Morticia Addams (1991)[/caption] คุณ Takano กล่าวว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครวายร้ายที่แตกต่างจากวายร้ายเพศหญิงที่ผ่านๆ มาในซีรี่ส์ Resident Evil อย่าง Lisa Trevor ที่มีลักษณะเป็นปีศาจหน้าตาน่าเกลียดไปเลย หรืออย่าง Alexia Ashford ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่กลายเป็นปีศาจ แต่เขาอยากให้ Lady Dimitrescu อยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างตัวละครทั้งสอง ตรงที่แม้ว่าเธอจะมีรุปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากมนุษย์ปกตินัก แต่ก็มีความน่าเกรงขามและความเป็น "อมนุษย์" ที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน "ในการสร้างตัวละครใหม่ ผมและทีมงานต้องกลับไปวิเคราะห์ตัวละครปีศาจที่ผ่านๆ มาของเราทั้งหมด และตั้งคำถามกับตัวเองว่าพวกมันเหล่านั้นยังน่ากลัวอยู่จริงๆ ไหม หรือว่ามันเป็นความน่ากลัวที่ถูกใช้บ่อยจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วสำหรับผู้เล่น" คุณ Takano บอกว่าเขาและทีมงานจำเป็นต้องลบภาพจำของซอมบี้และอาวุธชีวภาพในหัวตัวเองออกไปทั้งหมด และเริ่มตั้งต้นคิดกันใหม่ว่าอะไรกันแน่ที่จะสามารถสร้าง "ความกลัว" ในใจของผู้เล่นได้ พวกเขาเลือกที่จะต่อยอดมาจากแนวคิด "ความชั่วร้าย" ที่อยู่เบื้องหลังเกม Resident Evil 7 อีกครั้ง และ Lady Dimitrescu ก็คือผลลัพธ์ของแนวคิดนั้น เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีหน้าตา "น่ากลัว" ซะทีเดียว แต่ก็ทำให้รู้สึกกลัวได้จากวาจาท่าทางอันเป็นอมนุษย์ของเธอ ทั้งนี้ คุณ Takano ก็ยอมรับว่าเขาและทีมออกแบบไม่คิดไม่ฝันเลยว่า Lady Dimitrescu จะได้รับความนิยมจากหมู่ผู้เล่นได้มากขนาดนี้ โดยส่วนตัวเขาเองยังรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เห็นแฟนๆ ออกความเห็นทำนองว่า "อยากโดนเธอวิ่งไล่จังเลย" Credit: IGN
11 Feb 2021
[Review] Resident Evil Re:Verse การรวมดาวตัวดีและร้ายแห่งจักรวาลผีชีวะ เกมดีที่คนมองแค่เปลือก!
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เกวลินหายนานคิดถึงกันหรือเปล่าคะ >,.< วันนี้เกลวินเองได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” โหมดออนไลน์ตัวใหม่ล่าสุดที่จะเรียกว่าเป็นการรวมดาวตัวละครจากซีรีส์ Resident Evil ให้เราได้เล่นกันออนไลน์ต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ โดยตัวเกมจะแถมมาให้กับผู้เล่นที่ซื้อตัวเกม Resident Evil Village เท่านั้นนะคะ ไม่ได้เปิดให้บริการหรือขายแยกแต่อย่างใดค่ะ ซึ่งการทดสอบตัวเกมในช่วง Closed Beta ที่ผ่านมาก็ถือได้ว่า “ตัวเกมถูกจริตแฟนซีรีส์นี้ แล้วก็มีคนที่ไม่ชอบและเกลียดเกมนี้” พอตัวเลย เอาเป็นว่าการรีวิว [Review] นี้เป็นประสบการณ์จากการเล่นจริงจากตัวเกวลินเองค่ะ อธิบายก่อนว่าตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” คือโหมดออนไลน์ที่ทาง Capcom พัฒนาขึ้นมานี้ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปีของเกม Resident Evil ต้องยอมรับก่อนว่าตอนที่เปิดตัวทีเซอร์แรกเกมเมอร์ส่วนใหญ่ต่างไม่ชอบเท่าที่ควร ด้วยความที่ว่าในทีเซอร์ยิงกันก็ไม่โดน ตัดต่อก็เอ่อ...พูดตรงๆ ก็ “ห่วยแตกมั๊ก!” มันจึงไม่แปลกเลยที่ยอดกดดิสไลค์มันจะถล่มทลายได้ขนาดนั้น ในระหว่างนั้นก็มีการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมทดสอบตัวเกมนี้ด้วย โชคดีมากที่เกวลินได้ Beta Key มา 2 ตัวด้วยกันค่ะ แล้วการทดสอบตัวเกมในช่วง Closed Beta มีเฉพาะเครื่องคอนโซล PlayStation 4 และ Xbox One เท่านั้นนะคะ ตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” จะให้เราได้รับบทเป็นตัวละครต่างๆ จากซีรีส์ Resident Evil ทั้งตัวละครเอกที่เราคุ้นเคยกันดี ไปจนถึงเหล่าพวกอาวุธชีวภาพหลายประเภท สิ่งเหล่านี้คุณจะได้สัมผัสภายในเกมนี้อย่างแน่นอน ในด้านของระบบเกมเพลย์จะเป็นแนว Action Shooting แล้วโหมดการเล่นจะมีเพียงแค่เราจะต้องสังหารผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อเก็บคะแนนให้มากที่สุด ใครที่ทำคะแนนจากการสังหารมากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะไปค่ะ โดยเริ่มเกมเราจะต้องเลือกตัวละครว่าจะเล่นเป็นใคร ซึ่งเมื่อเลือกแล้วเราจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวละครได้จนกว่าจะจบเกม แต่ละตัวละครก็จะมีอาวุธและสกิลที่แตกต่างกันออกไปไม่มีความเหมือนกันเลยค่ะ ตัวละครเอกที่มีให้เราได้เล่นในช่วง Closed Beta ประกอบไปด้วย Chris Redfield เลือกใช้โมเดลตัวละครมาจากภาค Resident Evil 7 Jill Valentine เลือกใช้โมเดลตัวละครมาจากภาค Resident Evil 3 Remake Leon S. Kenney เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake Claire Redfield เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake Ada Wong เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake Hunk เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake สิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้อย่างแรกเลยก็คือตัวละครเหล่านี้จะมีค่าสเตตัสที่ติดตัวไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสกิลติดตัว 1 สกิลและสกิลเพื่อใช้งานคนละ 2 สกิลด้วยกัน ถ้าเราเลือกใช้งานสกิลอย่างเหมาะสมจะทำให้เกมเพลย์สนุกมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ ในด้านของอาวุธก็เช่นเดียวกันแต่ละตัวละครจะมีอาวุธ 2 ชนิด ชนิดแรกคืออาวุธประจำตัวส่วนใหญ่จะเป็นปืนพกที่มีกระสุนให้ใช้ไม่จำกัด แต่เมื่อต้องรีโหลดกระสุนจะกินเวลาเล็กน้อยทำให้เราอาจจะถูกสังหารได้ ถ้าเราเลือกใช้อย่างถูกวิธีมันจะเป็นอาวุธที่ทรงพลังและสังหารศัตรูได้อย่างดีเลยค่ะ ชนิดต่อมาคืออาวุธประจำกายที่จะมีความรุนแรงและมีกระสุนจำกัด เหมาะเอาไว้ใช้กระหน่ำโจมตีศัตรูเมื่ออยู่ในร่างของมนุษย์ได้ดี ทั้งนี้เราจะหากระสุนเพิ่มเติมได้ต่อเมื่อเก็บกล่องกระสุนที่กระจัดกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ภายในฉากเท่านั้นค่ะ  นอกจากนี้ยังมีอาวุธพิเศษที่จะมีให้เราได้เก็บตามจุดต่างๆ มันจะมีพลังทำลายล้างที่สูงมาก แต่จะสามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นจะต้องเลือกใช้งานให้ถูกจังหวะก็จะปิดจ๊อบศัตรูได้ ในช่วง Closed Beta จะมีอาวุธพิเศษให้เลือกใช้ทั้ง ปืนยิงจรวด Rocket Launcher, ปืนยิงระเบิด Grenade Launcher ที่จะสุ่มกระสุนชนิดต่างๆ และปืนยิงกระสุนไฟฟ้า Spark Shot ซึ่งพวกปืนพิเศษเหล่านี้จะมีอนุภาพทำลายล้างที่สูงมากๆ สามารถนำไปปิดเกมกับผู้เล่นที่กลายร่างเป็นอาวุธชีวภาพได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เมื่อเราเลือกตัวละครแล้วเข้าไปอยู่ภายในเกม ถ้าเราถูกฆ่าหรือฆ่าผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นคนนั้นจะได้รับโอกาสที่ 2 ด้วยการกลายร่างเป็น “อาวุธชีวภาพ” ชนิดต่างๆ ต้องบอกก่อนว่าภายในเกมจะมีไอเทมที่เรียกว่า “หลอดไวรัส” ที่สีม่วงเด่นชัด แนะนำว่าให้พยายามเก็บเอาไว้ติดตัวจะดีมากค่ะ สามารถเก็บสะสมได้สูงสุด 2 หลอดพร้อมกัน ไอเทมชนิดนี้จะทำให้เราสามารถสุ่มกลายเป็นอาวุธชีวภาพระดับสูงได้ แต่ถ้าเราไม่ได้เก็บเอาไว้เลยจะกลายเป็นเพียงแค่มอนสเตอร์ระดับล่างที่มีชื่อว่า “Fat Molded” มอนสเตอร์จาก Resident Evil 7 โดยรายละเอียดการกลายร่างเป็นอาวุธชีวภาพมีดังต่อไปนี้ค่ะ Hunter γ จากภาค Resident Evil 3 Remake กับ Jack Baker จากภาค Resident Evil 7 จะสุ่มการกลายร่างเมื่อผู้เล่นเก็บหลอดไวรัสติดตัวเอาไว้ 1 หลอด Nemesis จากภาค Resident Evil 3 Remake กับ Super Tyrant Resident Evil 2 Remake จะสุ่มการกลายร่างเมื่อผู้เล่นเก็บหลอดไวรัสติดตัวเอาไว้ 2 หลอด เช่นเดียวกับตัวละครมนุษย์ อาวุธชีวภาพแต่ละตัวจะมีค่าสเตตัสติดตัวที่ไม่เหมือนกัน และสกิลโจมตีที่ให้มาตัวละ 2 สกิล ในการฝึกเล่นเป็นตัวละครอาวุธชีวภาพอาจจะดูยุ่งยากสักหน่อย แต่ถ้าเล่นแล้วฝึกดีๆ มันจะกลายเป็นตัวละครที่ทำให้เราสามารถสังหารศัตรูฝ่ายตรงข้ามแล้วเก็บคะแนนได้มากกว่าตอนเราเล่นเป็นฝ่ายมนุษย์เสียอีกค่ะ ส่วนตัวแล้วเกวลินมองว่า “ตัวละครอาวุธชีวภาพยังจะต้องปรับสมดุลอีกสักหน่อย” เพราะบางตัวก็รู้สึกว่ามีพลังที่ดู OP เกินไปอยู่ แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ว่าเราฝึกฝนการใช้งานของตัวละครนั้นๆ ได้มากน้อยแค่ไหน ต่อให้เป็น Fat Molded มอนสเตอร์ระดับล่างก็สามารถสังหารผู้เล่นหรือมอนสเตอร์ที่เก่งๆ ได้เหมือนกัน โดยรวมแล้วตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” จากความรู้สึกที่เกวลินเล่นมาเกมเพลย์ของเกมนี้สนุกใช้ได้มาก ๆ เลยค่ะ ถ้าเทียบกับเกม Resident Evil Resistance ที่เป็นการต่อสู้ในรูปแบบ 4 Vs. 1 เอาจริงๆ มันก็สนุก...แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างทำให้เมื่อเล่นไปนานๆ กลับรู้สึกเบื่อได้ ตรงกันข้ามกับเกม Resident Evil Re:Verse ถ้าคุณเป็นคนชอบเกมแนว Action Shooting เกมนี้ดูจะเหมาะกับเพื่อนๆ มากที่สุดค่ะ เพราะเงื่อนไขในการเล่นไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายเพียงแค่เราสามารถไต่ลำดับคะแนนจากการสังหารให้มากที่สุดเพื่อเป็นผู้ชนะ  ส่วนในเรื่องกราฟฟิกภายในเกมจะมีให้ปรับในโหมดการ์ตูนที่เราจะเห็นรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น และ โหมดปกติที่จะเหมือนกับเราเล่นเกมนี้เลย มืด ๆ มองอะไรไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไหร่ แนะนำว่าถ้าจะเล่นเกมนี้เลือกใช้โหมดการ์ตูนจะดีกว่าค่ะ เพราะเราจะได้เห็นว่าศัตรูอยู่ตรงไหนชัดเจนมาก ที่สำคัญตัวเกม Resident Evil Re:Verse รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบเหมือนกับตัวเกมหลักอย่าง Resident Evil Village อีกด้วยค่ะ! แต่ก็น่าเสียดายที่ทาง Capcom เลือกใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ที่จะขึ้นอยู่กับ Host เป็นหลัก ทำให้เราถ้าไปเจอผู้เล่นที่อยู่ประเทศที่ไกลจากเรามันก็ส่งผลต่อการเล่นเป็นอย่างมากเลย คือเห็นได้ชัดเลยว่าโจมตีโดนเต็มๆ แต่ไม่ตาย หรือ การวาร์ปอันเป็นผลการอาการแล๊ค สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของการใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ที่ทาง Capcom เลือก ก็ได้แต่ลุ้นและหวังว่าเมื่อตัวเกมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ การเชื่อมต่อของระบบเซิร์ฟเวอร์จะมีความเสถียรมากกว่านี้นะ ไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นปัญหาเดิมๆ แล้วคนก็จะเลิกเล่นเกมนี้ไปแม้ว่าเกมมันจะดีแค่ไหนก็ตาม ตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” จะแถมให้กับผู้เล่นที่ซื้อเกม Resident Evil Village เท่านั้น โดยตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 7 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ทั้งแพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One และ Xbox Series X/S ถึงตอนนั้นอย่าลืมมาเล่นด้วยกันนะคะ เกวลินตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะซื้อเอาไว้เล่นบนเครื่อง PlayStation 5 เพราะคาดว่าคนน่าจะเล่นกันเยอะมากกว่า ตัวเกมสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,829 บาทสำหรับ PC [Steam] และ 1,822 บาท สำหรับ PlayStation 5 ค่ะ ใครสะดวกแพลตฟอร์มไหนก็จัดมาเก็บไว้ก่อนก็ได้นะคะ แล้วเจอกันใหม่กับบทความหน้าของเกวลินนะคะ สวัสดีค่ะ!  
10 Feb 2021
ฆ่า Brand เพื่อ RE Brand: กรณีศึกษาทิศทางที่เปลี่ยนไปของซีรีส์ Resident Evil
หมายเหตุ : บทความชิ้นนี้ ผู้เขียน เขียนโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงของ Resident Evil ภาคแกนหลัก โดยไม่ได้แตะไปที่ภาคปลีกย่อย แต่ขอให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจโดยทั่วกันว่า กระบวนการที่ Capcom ได้ทำกับซีรีส์นั้น เกิดขึ้นในภาพกว้าง โดยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ภาคใดภาคหนึ่ง หรือสื่อใดสื่อหนึ่งเป็นการเฉพาะ หมายเหตุ 2 : ในขณะที่ผู้เขียนเขียนงานชิ้นนี้ ก็เป็นช่วงเวลาดียวกับที่คุณ Jeanette Maus ผู้ให้เสียงและ Mo-Cap ‘ลูกสาวแวมไพร์’ ใน Resident Evil : VILLAGE ได้เสียชีวิตด้วยมะเร็งลำไส้ ในวัย 39 ปี ผู้เขียนขอแสดงความอาลัยต่อการจากไป และขอให้วิญญาณของเธอไปสู่ภพภูมิที่ดี เนื่องด้วยเธอได้ดำรงความเป็นอมตะในบทบาทอันสุดยอดเป็นที่จดจำได้ในทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัว บนชิ้นงานที่จะสืบทอดต่อไปอีกนานเท่านาน และในขณะนี้ ทางครอบครัว Maus ยังเปิดรับเงินบริจาคสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ลำบาก ซึ่งคุณสามารถร่วมบริจาคได้ ที่นี่ *********************************************************************************************************** ย้อนเวลากลับไปที่ปี 1998 หรือเมื่อประมาณ เกือบยี่สิบสามปีที่แล้ว ในช่วงเวลาที่เครื่อง Playstation รุ่นแรกยังคงเฟื่องฟู ผู้เขียนยังเป็นเพียงเด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ก็เป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์การเล่นเกมบนระบบดังกล่าวเช่นเดียวกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่นทั่วไป และเป็นเวลาเดียวกับที่ซีรีส์ ‘Resident Evil’ เกมผจญภัยสยองขวัญชื่อดังของ Capcom กำลังติดลมบน จากความสำเร็จของภาคแรก และตีเหล็กกำลังร้อนของภาคที่สอง ที่แทบจะเรียกว่าร้านเกมทุกแห่งจะต้องมี และแข่งกันเล่นกับเพื่อนฝูงว่าใครจะสามารถเล่นได้เร็วที่สุด เก่งที่สุด ปลดล็อคความลับที่ซ่อนอยู่ได้มากที่สุดกว่ากัน ในยุคที่ยังไม่มีประดิษฐกรรมที่เรียกว่า ‘Achievements’ นั้น นับเป็นความท้าทายที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองและเสียงเชียร์จากเพื่อนเป็นรางวัลล้วนๆ ไม่มีเป็นอื่นใด เห็นแบบนี้ แต่นี่สุดยอดกราฟิกระดับ Next-Gen ของปี 1998 ที่ทุกคนต้องสัมผัส สำหรับ Resident Evil 2 และด้วยความนิยมอันมหาศาลของ Resident Evil 2 นี้เอง ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ ‘อ่าน’ หนังสือการ์ตูนแบบ Pirate หรือแบบพิมพ์อย่างไม่ถูกลิขสิทธิ์ ที่เอาผลงานเขียนโดยนักเขียนสายไต้หวัน (ในชื่อ Manhua [生化危機]) ที่เอาความเป็นซีรีส์ RE มาเป็นกรอบ เคลือบความเป็นการ์ตูนกำลังภายใน และเนื้อหาข้างในก็ถูกยำใส่สีตีไข่จนมั่วและแทบไม่เหลือเค้าเดิม ผู้เขียนได้แต่นั่งอ่านไปและถอนใจ ทั้งในความบรรเจิดของคนเขียน ความพยายามที่จะทำมาหากิน และความ ‘เพ้อเจ้อ’ ของการ์ตูนกำลังภายใน ที่ดูเหมือนจะหยิบจับอะไรก็ได้ มาบิดดัดให้กลายร่างเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะสามารถไปในแนวทางเหล่านั้น ให้กลายเป็นการปล่อยพลังวรยุทธ์ขั้นที่สาม สี่ และห้า ได้อย่างเข้าใจจะหาทำ... Leon ผู้สำเร็จเคล็ดวิชา G-Virus ขั้นที่ห้า ..... ก็คงมีแต่การ์ตูนจอมยุทธ์สายไต้หวันนี่ล่ะ ที่กล้าและบ้าพอจะหาทำ... แต่มาในวันนี้ ยี่สิบกว่าปีผ่านไป … กับซีรีส์ Resident Evil ที่เดินทางออกห่างจากภาค 2 มาไกลจนถึงภาค 7 และภาค VILLAGE ที่กำลังจะวางจำหน่าย แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เท่ากับการที่ Leon ได้เคยเป็นยอดจอมยุทธ์แห่ง G-Virus ในหนังสือการ์ตูน แต่การได้เห็น Leon กลายเป็นสุดยอดสายลับ (และนักทำลายล้างยานยนต์ทุกชนิดที่ขับขี่…), Chris Redfield ต่อยหินลาวา, Jill Valentine เป็นสุดยอดอาวุธชีวภาพเดินได้, Albert Wesker กลายเป็นสุดยอดมนุษย์กลายพันธุ์ และการผจญภัยของ Ethan Winters ที่ต่อมือขาดด้วยไวรัสได้ง่ายเหมือนหยอดยาแดงเบตาดีน (และแน่นอน… ได้เห็น Joe Baker ต่อยเหล่า ‘Molded’ ตัวขาดด้วยหมัดเปล่าใน End of Zoe ภาคเสริมของ Resident Evil 7…) วินาทีที่ Chris Redfield ผลักหินลาวา ความเป็น Resident Evil ก็แบบดั้งเดิมก็จากลาในความรู้สึกของผู้เขียนไปเรียบร้อยแล้ว... ทั้งหมดนี้ ทำให้ผู้เขียนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า นักเขียนการ์ตูนไต้หวันเหล่านั้น มีญาณทิพย์เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้ล่วงหน้าเป็นสิบกว่าปีหรือไม่ เพราะแม้จะไม่ได้เวอร์วังในสเกลเดียวกัน แต่ถ้าเทียบกับต้นกำเนิดหลักแล้ว ก็ต้องบอกว่าซีรีส์ RE นั้น ‘มาไกล’ จนเกือบเข้าข่าย ‘เพ้อเจ้อ’ อยู่ไม่น้อย และยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีกขั้น เมื่อมันกลายเป็นหนังอย่าง Texas Chainsaw Massacre หรือ The Hills have Eyes ในธีมตระกูล Baker ของภาค 7.... แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะถ้ามองในแง่มุมการตลาดแล้ว เราจะพบว่า มันเป็น ‘กระบวนการ’ ที่ผ่านการคิดและการสร้างมาอย่างเป็นระบบ ด้วยความตั้งใจ และการใช้เวลา และเป็นการ ‘รีแบรนด์’ แบบเล่นใหญ่ในตลอดยี่สิบห้าปีในประวัติศาสตร์ของซีรีส์ที่ผ่านมา ถูกสะสม ลองผิดลองถูก และผ่านการ ‘ถูกฆ่า’ เพื่อหาสูตรสำเร็จในแต่ละช่วงเวลามาอย่างห้าวหาญมานับไม่ถ้วน ซึ่งน้อยซีรีส์นักที่จะมีความกล้าในการลงมือทำในสิ่งเหล่านี้ จนนี่ น่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย อะไรคือการ ‘รีแบรนด์’ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘รีแบรนด์’ มาบ้างจากวิชาทางด้านการตลาดและเศรษฐศาสตร์ ถ้ากล่าวโดยสรุปนั้นคือ มันเป็นกลยุทธ์ที่สินค้าและบริการหนึ่งๆ ใช้ ในการปรับ ‘ภาพลักษณ์’ เพื่อเข้าถึงความต้องการและการจดจำของลูกค้า โดยมีเหตุผลและความจำเป็นสำหรับการ ‘รีแบรนด์’ ที่สามารถสรุปได้คร่าวๆ ดังต่อไปนี้ -กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์นั้นๆ มีความเปลี่ยนแปลงไป -มีความต้องการที่จะขยายตลาดให้หลากหลาย และกว้างขวางมากขึ้น -มีสัญญาณของการ Disrupt หรือการเข้ามาของสิ่งใหม่ ที่จะทำให้รูปแบบการทำธุรกิจหรือสินค้าเดิมล้าสมัย -สัญญาณของการไม่ปรับตัวจะทำให้แบรนด์กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม ที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น ไปเป็นเพียงเหตุ ‘คร่าวๆ’ เพราะปัจจัยในการรีแบรนด์นั้นยังมีอีกมาก (และผู้เขียนก็คงไม่ขอยกมาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นบทความนี้อาจจะกลายเป็นตำรา Marketing 101 ไปเสียก่อน…) แต่เชื่อหรือไม่ว่า การรีแบรนด์นั้น เกิดขึ้นมาโดยตลอด และไม่เฉพาะกับแบรนด์ขนาดเล็กหรือขนาดกลาง แต่กับแบรนด์ขนาดใหญ่นั้น กลับเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่ผ่านขั้นตอนการ ‘รีแบรนด์’ อย่างหนักหน่วงมากที่สุด เช่น แบรนด์ Starbucks, Marvel Studios หรือของไทยอย่าง Bar-B-Q Plaza ที่ปรับภาพลักษณ์ขององค์กรอายุ 30 ปีให้สดใส จนคนคุ้นเคยกับ พี่ก้อน หรือ บาร์บีกอน กันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การ รีแบรนด์ นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป มีผลต่อความเชื่อใจของผู้บริโภคอย่างสูง ถ้าทำอย่างไม่ระวัง ผลเสียที่เกิดขึ้นจะร้ายแรงกว่าการไม่ทำอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ นั่นทำให้การ รีแบรนด์ คือมาตรการสุดท้าย ในสภาวะที่แบรนด์ส่อเค้าว่าจะวิกฤติ ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง ใครๆ ก็รักพี่ก้อน และพี่ก้อน ก็คือผลลัพธ์จากการ รีแบรนด์ ครั้งสำคัญของ Bar-B-Q Plaza ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด จำเป็นแค่ไหนที่ Resident Evil จะต้อง ‘รีแบรนด์’? อันที่จริง ในช่วงเวลาที่เป็นขาขึ้นที่สุดของซีรีส์ Resident Evil อย่างภาคสองนั้น มันแทบจะเป็นจุดที่ทาง Capcom เองไม่ต้องกังวลใดๆ กับการดำรงอยู่ของแบรนด์นี้ในสายการผลิตของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้ว เราจะพบว่า มันมีข้อจำกัดหลายอย่าง ที่จะนำซีรีส์นี้ไปสู่ ‘ทางตัน’ ได้ หากผู้พัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวิสัยทัศน์ของ Shinji Mikami ผู้เป็นโปรดิวเซอร์หลักของซีรีส์ได้มองเอาไว้ ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างเสียแต่เนิ่นๆ -ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี : การเล่นในแบบมุมกล้อง CCTV Camera นั้น เป็นรูปแบบเก่าที่เกิดจากข้อจำกัดในการแสดงผล ซึ่งมันจะล้าสมัยไปในไม่ช้า -พื้นหลังเรื่องราว : วิกฤติซอมบี้ระบาดในพื้นที่จำกัด กับศัตรูรูปแบบเดิมเช่นนี้ จะเล่นได้อีกนานแค่ไหน? -การพัฒนาตัวละคร: บรรดาตัวละครทั้งหลายที่อยู่ในเนื้อหา จะสามารถเติบโตในทิศทางใด หากยังถูกจำกัดอยู่แต่ในกรอบเขตกีดกั้นของวิกฤติซอมบี้ระบาด? Resident Evil : Code: Veronica น่าจะเป็นจุด ถึงที่สุด ที่ Capcom ได้เห็นว่า แนวทางแบบดั้งเดิม ควรจะต้องหยุด และเริ่ม Disrupt ตัวเองได้เสียที เอาเพียงแค่สามข้อ มันก็ดูจะเพียงพอแล้วที่เราจะเห็นว่า ปลายทางของ Resident Evil ในแบบ ‘ดั้งเดิม’ นั้น ไม่อาจฝ่าคลื่นนาวาของความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะถาโถมเข้ามาได้ (และดูเหมือนว่าจะยิ่งชัดเจนที่สุดกับภาค Code Veronica ที่น่าจะถึงที่สุดของการนำเสนอและการเล่นใน ‘แบบเก่า’ ไปแล้ว) นอกไปเสียจากทางตัน และยิ่งโดยตัวของ Shinji Mikami เองที่ได้มีโอกาสไปกำกับเกมอื่นๆ ของค่าย เขาก็ยิ่งเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะผลักดันให้ซีรีส์ Resident Evil ‘ไปได้ไกล’ มากกว่าที่เป็น และเป็นเหตุผลที่เขาเริ่มทำ ‘Resident Evil 4’ และโลกของ RE ก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกต่อไป …. ’ฆ่า Brand’ เพื่อ ‘RE : แบรนด์’ เป็นที่แน่นอนแล้วว่ากระบวนการ ‘รีแบรนด์’ นั้น คือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอนในฐานคิดของทีม Capcom ถ้าพวกเขาอยากจะก้าวต่อไปกับซีรีส์นี้ แต่กระนั้น ด้วยความที่ Resident Evil คือหนึ่งในเกมระดับแม่เหล็กของค่าย การเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างฉุกละหุก และโดยปัจจุบันทันด่วนนั้น อาจจะก่อให้เกิดผลเสียที่จะตามมา และนั่น ทำให้เกิดเป็นแผน ‘ระยะยาว’ ที่ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งใจหรือไม่ แต่พวกเขาก็ได้ดำเนินการ ‘ฆ่า’ สามเสาหลักที่สำคัญของแบรนด์ RE และดัดแปลงมันเพื่อขยายขอบเขตความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับซีรีส์อย่างเป็นระบบ ที่เรา ในฐานะผู้เล่น อาจจะรู้สึกว่า พวกเขากำลังเล่นบ้าอะไรอยู่ แต่เชื่อเถอะว่า นี่เป็นขั้นตอนที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว เมื่อมองในภาพกว้าง แล้วพวกเขาได้ ‘ฆ่า’ อะไรไปบ้าง? 1.ฆ่า ‘บทบาทตัวละคร’ นี่เป็นจุดที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายที่สุดที่สามารถทำได้ เพราะบรรดาตัวละครทั้งหลาย ย่อมมีพัฒนาการและการเติบโตตามระยะเวลา การจะยังคงรูปแบบ แนวคิด และลักษณะดั้งเดิมเอาไว้ จะทำให้มันกลายเป็นตัวละครที่มีมิติที่แบนราบ ไม่น่าสนใจ และดูเหมือนว่าทีม Capcom เองก็เห็นด้วย และ ‘ไปสุดทาง’ อยู่ไม่น้อย เพราะการที่เหล่าตัวละครจากคนธรรมดา ที่อาจจะเป็นเพียง ‘ผู้พยายามรอดชีวิต’ จากวิกฤติไวรัสซอมบี้ระบาด จนกลายมาเป็นสุดยอดโคตรคนที่ต่อกรกับทุกอุปสรรคได้อย่างเหนือมนุษย์นั้น ก็ออกจะพิสดารอภินิหารไปบ้าง แต่ในเมื่อมันเป็นตัวละครของ ‘พวกเขา’ แล้ว พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะยำมันได้ในขอบเขตที่ยังไม่ล้ำเส้นความเป็นไปได้จนเกินไป ซึ่งนั่นจะตามมาด้วยการ ‘ฆ่า’ ในข้อที่สอง 2.ฆ่า ‘พื้นหลังเรื่องราว’ จากจุดเริ่มต้นเรื่องราวที่ Spencer Mansion นอกเขตเมือง Raccoon City ใน Resident Evil ภาคแรก มาสู่การเดินทางเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของอดีตบริษัท Umbrella ที่ล่มสลาย และกระจายเข้าสู่ตลาดมืด จากวิกฤติไวรัสล้างเมือง สู่การใช้อาวุธชีวภาพตามพื้นที่ต่างๆ ก่อจนเกิดเป็นลัทธิวิปริตอย่าง Los Illuminados หรือบ้านตระกูล Baker ที่เหมือนหลุดมาจากหนัง Texas Chainsaw Massacre จากหน่วยสืบพิเศษ S.T.A.R.S. แห่งกรมตำรวจ Raccoon City สู่หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย Bioterrorism Security Assessment Alliance (BSAA) เหล่านี้ คือการเปลี่ยนพื้นหลังเรื่องราวหรือ Narrative เพื่อสอดรับกับการเติบโตและความเป็นไปของบรรดาตัวละครที่มีบทบาทที่แตกต่างออกไปจากเดิมของซีรีส์ Resident Evil นั่นเพราะถ้าหากยังคงบทบาทเก่า แนวคิดเก่า และ ‘ความสามารถ’ แบบเก่า มันเป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเขาคงไม่สามารถรับมือกับวิกฤติการผีบ้าทั้งหลายที่ยกสเกลความพินาศขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวได้ Ada Wong คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ในด้านความ เหนือมนุษย์ ที่เปลี่ยนจาก Corporate Agent ธรรมดา ให้กลายเป็นโคตรสายลับสาวระดับพระกาฬที่เราคงไม่ต้องถามเรื่องความเวอร์วังอะไรจากเธออีก... และก็อีกเช่นเคย Capcom สนุกกับการเชือด Settings เก่าทิ้งอย่างเป็นระบบ ค่อยๆ สอดไส้ความเหนือมนุษย์ลงไปทีละหยดๆ จนมาถึงตอนนี้ เราคงไม่ค่อยแปลกใจกันนัก ถ้าหากจะเห็น Leon S. Kenedy เป็นยอดสายลับขับขี่ยานพาหนะเป็นพัง และเห็น Chris Redfield กลายเป็นโคตรทหารต่อยซอมบี้หัวขาดและฟาดหินลาวาด้วยหมัดเปล่า และเหล่าซอมบี้ง่อยๆ ก็กลายเป็นเหล่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และอีกหลายอันที่หลุดมาจากนรกขุมที่เท่าไรก็ไม่อยากจะนับ ก็เพราะพวกเขา ‘ชง’ ให้มันมาทางนี้ซะแล้ว ซึ่งการ ‘ตบ’ และ ‘ดื่ม’ ก็จะเกี่ยวข้องกับการ ‘ฆ่า’ ปัจจัยสุดท้าย 3.ฆ่า ‘เกมการเล่น’ นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผู้เขียนขอยกมาไว้ตอนท้าย เพราะดังที่กล่าวไปข้างต้น เกมการเล่นดั้งเดิมของ Resident Evil ในแบบแรกเริ่ม ที่กำหนดมุมกล้องแบบ CCTV นั้น เกิดขึ้นจากความจำเป็นในข้อจำกัดของเทคโนโลยี และเป็นสิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมผจญภัยสยองขวัญโคตรปู่ผีอย่าง Alone in the Dark (ที่ตอนนี้ตายซากกลายเป็นเป็นผีไม่มีที่ฝังและถูกลืมหายไปจากความทรงจำแล้วอย่างน่าเศร้า…) แต่เมื่อเทคโนโลยีในการนำเสนอเปลี่ยนแปลงไป เมื่อความเป็นไปได้ใหม่ๆ ได้เดินทางเข้ามา ทีมพัฒนาของ Capcom ก็รู้แล้วว่า การ ‘Disrupt’ ครั้งใหญ่กำลังจะมาถึง และถ้าพวกเขาไม่ขยับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลง ซีรีส์ RE ก็อาจจะกลายเป็นผีตามรุ่นพี่อย่าง Alone in the Dark ไปอีกเกม พวกเขานำร่องด้วยเกมอย่าง Resident Evil 4 ที่กลายมาเป็นเกม 3rd Person Shooter บนระบบ Gamecube ก่อนจะดำเนินตามแนวทางนี้มาจนถึงภาคที่ 6 และอย่ามองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ธรรมดาสามัญ เพราะการเปลี่ยน Genre หรือประเภทแนวเกม นั่นหมายถึงผู้พัฒนาเกม จะต้องสร้างเกมบนฐานคิด มุมมอง และทัศนคติด้วยแนวทางใหม่ เพราะเกมแต่ละประเภทก็มีจังหวะ มีลูกล่อลูกชน และมีรูปแบบในการนำเสนอความน่าสนใจที่แตกต่างกัน มี Pace ที่แตกต่างกัน แน่นอน Resident Evil ในแบบออริจินัลดั้งเดิม มุมกล้อง CCTV นั้นสามารถช้าได้ แต่เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเป็น 3rd Person Shooter แล้ว รูปแบบการเล่น การวางศัตรู การแก้ปริศนา และการสร้างความท้าทายก็จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นในทันที และเป็นไปในแบบที่เกมแนวเดิมไม่สามารถให้ได้ มันคือการ ฆ่า เกมแนวเก่า เพื่อโอบรับ แนวคิดใหม่" โดยแท้ และพวกเขาก็ใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่ถึงสามภาคเต็มๆ ตั้งแต่ภาค 4 จนถึงภาคที่ 6 ในแบบสุดทาง และพวกเขาก็ Disrupt ตัวเองอีกครั้งในภาค 7 ที่พวกเขา ‘ทดลอง’ นำเอาความเป็น First Person Shooter มาใส่ความสยองขวัญแบบ RE ดั้งเดิมลงไป ซึ่งก็ให้ผลตอบรับในทางที่ดีอยู่ไม่น้อย จนกลายมาเป็นภาค VILLAGE ที่กำลังจะวางจำหน่าย ที่คิดว่าความเป็น First Person Shooter กึ่งสยองขวัญ น่าจะยังอยู่กับซีรีส์ RE ไปอีกสักระยะหนึ่งอย่างแน่นอน อนึ่ง แม้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในระดับ ‘หักศอก’ เกิดขึ้นในรอบ 25 ปีของซีรีส์ Resident Evil แต่ทีม Capcom ก็ไม่ได้ทิ้ง Core Value ของซีรีส์ ทั้งในเรื่องของการเป็นเกมสยองขวัญ, เอกลักษณ์ของจุดเซฟ, การบริหาร Inventory, การสืบทอด Entity หรือองค์กรอย่าง Umbrella ที่ดูจะเป็นปิศาจที่หลอกหลอนในเรื่องราวเกือบทุกภาค (แม้ว่าในเนื้อหาหลัก ตัวบริษัทจะล่มสลายไปแล้วก็ตาม…) เพราะสำหรับพวกเขา ทีมพัฒนาจาก Capcom ซีรีส์ Resident Evil ก็ยังคงเป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่าง ‘มนุษย์’ กับ ‘สิ่งเหนือธรรมชาติ’ ที่เกิดจากสิ่งที่ถูกสร้างโดยเทคโนโลยีในทางที่ผิด ส่วนผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยีที่ว่านั้น จะออกมาในรูปแบบไหน คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำคัญอันใดอีกต่อไปแล้ว (โดยเฉพาะภาค VILLAGE ที่ดูจะยิ่งหลุดโลกหนักกว่าเดิม ที่คุณสามารถอ่านบทความสรุปเนื้อหาได้จาก ที่นี่) "และแน่นอน นั่นหมายรวมถึงขอบเขตที่ Resident Evil จะก้าวต่อไป ที่พวกเขาได้สลัดหลุดพ้น ‘กรอบกีดกั้น’ ของความเป็นเกมอาชีวิตรอดจากซอมบี้ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย…" จากวันแรกที่ Resident Evil ภาคแรกวางจำหน่ายในปี 1996 จนมาถึงปีนี้ 2021 ที่ภาค VILLAGE จะวางจำหน่าย จากวันที่ Tyrant กับมือกรงเล็บสร้างความสยองขวัญ สู่ Lady Dimitrescu สตรีสูงศักดิ์ร่างยักษ์กับลูกสาว ‘แวมไพร์’ ในปราสาทยุโรปตะวันออกคือภัยร้ายแรงระดับถึงตาย จากวันที่ Leon S. Kenedy ยังเป็นตำรวจหน้าใหม่ที่บังเอิญโชคดีมาถึงเมืองช้า สู่การเป็นสุดยอดสายลับที่ขับยานพาหนะเป็นต้องพัง และจากวันที่ Shinji Mikami ตัดสินใจสร้าง Resident Evil ให้กำเนิดขึ้นมาบนโลก จนถึงวันที่เขาวางมือและปล่อยให้ซีรีส์ดำเนินไปตามทางของมัน และยังคงอยู่ได้ แม้เขาไม่ได้กุมบังเหียนมันอีกต่อไปแล้วก็ตาม Lady Dimitrescu สตรีสูงศักดิ์ร่างยักษ์กับเหล่า ลูกสาวแวมไพร์ ตัวร้ายของภาค VIlLAGE ที่สร้างกระแสฮือฮาบนโลกอินเทอร์เนตอย่างไม่หยุดฉุดไม่อยู่ แน่นอน มันมีกาสร้างที่ผิดพลาด มันมีการ experiment หรือการทดลองแนวคิดที่ไม่ประสบผล (ไม่ว่าจะเป็นภาค Outbreak ที่แนวคิดดีแต่ติดที่ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี หรือภาค Umbrella Corps แนว Multiplayer Shooter ที่อย่าไปพูดถึงมันเลยจะดีกว่า…) บางการ ทดลอง ของ Capcom ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จ เช่น Resident Evil : Umbrella Corps ที่สมควรถูกลืมไปซะจะดีกว่า ... แต่เราก็ต้องยอมรับว่า ซีรีส์ Resident Evil คือหนึ่งในตัวอย่างของการ ‘ปรับตัว’ หรือ ‘รีแบรนด์’ ที่กระทำอย่างต่อเนื่อง รับรู้ข้อจำกัดตัวเอง และรีบดำเนินการในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ใครมากระตุ้นเตือนหรือทำให้รับรู้ว่าตัวเอง ‘ตกเทรนด์’ เพราะพวกเขาเป็นคน ‘กำหนดเทรนด์’ ที่เกมแนวสยองขวัญจะก้าวไปข้างหน้า ที่จะยืนยาวต่อไป และน่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าพวกเขาจะสร้างสิ่งใด ภายใต้ความเปลี่ยนผ่านของแวดวงวิดีโอเกมในเวลาที่จะมาถึง “เพราะลงว่าได้ ‘ฆ่าแบรนด์’ เพื่อเกิดใหม่มาแล้วอย่างชำนาญ มันจะไม่จบแค่ครั้งที่สอง สาม หรือสี่แน่นอน และนั่น คือวิถีทางที่สิ่งใหม่ๆ จะถือถือกำเนิดขึ้น ในวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และมันจะเป็นเช่นนั้น…เสมอ”
10 Feb 2021
สรุป 9 เนื้อหาสำคัญของ The Resident Evil Village Showcase
หลังจากที่ทาง Capcom ได้ทำการสตรีม The Resident Evil Village Showcase เพื่อเปิดเผยข้อมูลและเนื้อหาสำคัญหลายๆ อย่าง ซึ่งบอกได้ว่าอีเวนท์นี้ได้สร้างกระแสและเสียงฮือฮาในหมู่แฟนๆ และนักวิจารณ์อยู่พักหนึ่งเลย แต่เชื่อว่ายังมีหลายๆ คนอาจจะไม่เข้าใจข้อมูลบางส่วน หรือพลาดจุดสำคัญบางจุดไป ดังนั้นในวันนี้พวกเรา GameFeverTH จะขอสรุปรายละเอียดและเนื้อหาสำคัญของ The Resident Evil Village Showcase มาให้ทุกคนได้เข้าใจกันถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.วันวางจำหน่าย ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ นั้นมีทั้งข่าวรั่วไหลและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องวันเปิดตัวของเกม Resident Evill Village บ้างก็ว่าเกมจะมาในช่วงเดือนเมษายนบ้าง ในช่วงกลางปีบ้าง แต่เราไม่ต้องสับสนแล้วว่าจะเชื่อใคร เพราะตอนนี้ทาง Official ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า " Resident Evill Village จะเปิดตัวในวันที่ 7 พฤษภาคม 2021 " !! นอกจากนี้ช่วง The Resident Evil Village Showcase ก็ยังได้ประกาศข้อมูลสำคัญอื่นๆ อีกด้วย แต่จะคืออะไรบ้างนั้นไปดูในหัวข้อต่อๆ ไปได้เลย. 2.มีให้เลือกระหว่าง Deluxe Edition และ Collectors Edition การสั่งจองล้วงหน้าและการสั่งซื้อนั้น ทาง Capcom ได้เปิดตัวเกม Resident Evill Village ให้เราได้เลือกกัน 2 แบบ ดังนี้ Deluxe Edition: Trauma Pack รุ่นที่จะมาพร้อมไอเท็มต่างๆ จาก Resident Evil 7: Biohazard เช่น Mr. Everywhere Bobblehead / เพลง Safe Room ( เพลงนี้ผมชอบมากมันทั้งติดหู หลอน และระทึกในเวลาเดียวกัน ) / เครื่องบันทึกเกม และอื่นๆ สามารถดูได้ในภาพประกอบ Collectors Edition รุ่นที่จะมาให้ทุกสิ่งจาก Deluxe Edition และมีสิ่งอื่นๆ เพิ่มมาได้แก่ โมเดล Chris Redfield / Steelbook / Artbook และอีกมากมายในภาพประกอบ รางวัลพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้านั้นได้แก่ Mr.Raccoon Weapon Charm / อุปกรณ์ไอเทมช่วยชีวิต Survival Resource Pack 3.เกม Demo ที่เป็น Exculsive บน PS5 ในช่วง The Resident Evil Village Showcase ทาง Capcom ได้แสดงตัวอย่างเกมรวมถึงได้แสดงศักยภาพของเอนจิ้น / ภาพกราฟฟิคมากมาย และมีเกมฉบับ Demo ในชื่อ " Maiden " ที่ผู้เล่นจะสามารถลองไปโหลดเล่นกันได้ฟรี! แต่เล่นได้เฉพาะผู้ที่มี PS5 เท่านั้นนะครับ555 ซึ่งในเกมฉบับ Demo นั้นเราจะได้เห็นถึงเรื่องราวของหญิงปริศนาผู้กำลังหาทางเอาตัวรอดจากคุกใต้ดินที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด และไปโผล่ในตัวปราสาทที่สวยตระการตา แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงได้ด้วยบรรยากาศที่อึดอัด ทำให้รู้สึกหวั่นๆ ขนลุกไปด้วยในเวลาเดียวกัน สำหรับเกมเพลย์คร่าวๆ ของเกมฉบับ Demo นั้นผู้เล่นจะทำได้แค่เพียงเดิน วิ่ง ก้ม ไขปริศนาเพื่อหาทางเอาตัวรอดออกจากปราสาทสยองขวัญนี้! ( ใน Demo เราจะไม่สามารถต่อสู้ใดๆ ได้เพราะทีมงานอยากนำเสนอเรื่องศักยภาพด้านกราฟฟิกและเกมเพลย์นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นครับ ) *ในช่วงนี้ยูทูปเบอร์ชาวไทยก็เริ่มนำเกมฉบับ Demo มาเล่นกันแล้ว อย่างผมก็ได้ไปดูพี่เอก HRK เล่นมาและเปิดดูแบบ 4K บอกเลยว่าภาพในเกมโค-ตะ-ระ-สวยยยย! เสียงเพลงและซาวด์ประกอบก็เข้ากับบรรยากาศและช่วงเวลานั้นๆ มาก บอกเลยว่ารอเกมเต็มแทบไม่ไหวแล้ว! 4.ไม่ทิ้งเครื่องเจ็นเก่าอย่าง PS4 และ Xbox One! ในช่วงแรกๆ นั้นมีข่าวลือมากมายที่บอกว่าทาง Capcom จะเปิดวางจำหน่ายบนเครื่องคอนโซลเจ็นใหม่อย่าง PS5 และ Xbox Series X เท่านั้น แต่มันไม่ใช่แบบนั้น! เพราะล่าสุดทีมงานประกาศแล้วว่าพวกเขาจะวางจำหน่ายเกม Resident Evil Village บนเครื่อง PlayStation 4 / PlayStation 5 / Xbox Series X / S / Xbox One และ PC! นอกจากนี้ Capcom ยังใจดีประกาศอีกว่า ใครที่ซื้อไปเล่นบน PS4 จะได้รับการอัพเกรดข้ามเจ็นฟรีสำหรับกรณีที่ท่านซื้อเครื่อง PS5 อีกด้วย! Xbox ก็เช่นกันครับ! 5.รูปแบบการต่อสู้ที่เราทราบ ณ ตอนนี้! ในส่วนของเกมเพลย์นั้นเราอาจจะไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากนัก แต่กลิ่นอายที่รู้สึกหลังจากได้เห็นตัวอย่างและ Demo นั้นบอกเลยว่ามันรู้สึกว้าวจริงๆ ครับ เพราะตัวเกมนั้นยังคงในมุมมองบุคคลที่หนึ่งเช่นเดียวกับ Resident Evil 7: Biohazard แต่จะผสมความเป็น Action / Survival มากขึ้นเพราะทีมงานนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากภาคแรกๆ เช่นเดิมและในครั้งนี้ยังได้รับอิทธิพลมาจากภาค 4 ด้วย! ดังนั้นเราจะได้เห็นอีธานในภาคนี้ที่สามารถหลบหลีกและป้องกันการโจมตีของศัตรูต่างๆ ในเกมนี้ได้คล่องตัวขึ้น ไม่ได้เป็นอีธานผู้วิ่งหนีลุง โดยทุบ โดนฟาด โดนสับขาขาดเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียวแล้ว555 นอกจากนี้ยังมีถังแดงถังน้ำมันที่ตั้งล่อตาล่อใจให้ผู้เล่นยิงมันเพื่อสร้างแรงระเบิดมหาศาลออกมาได้อีกด้วย บอกเลยว่าไม่ใช่แค่บรรยากาศที่ทำให้เรานึกถึงเกมภาคคลาสสิค แต่รวมถึงเกมเพลย์ด้วยเช่นกัน. 6.โหมด Multiplayer สำหรับ Resident Evil Resistance ที่เป็นโหมด Multiplayer ในครั้งก่อนของทาง Capcom นั้นอาจจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แต่ทางทีมงาน Capcom ก็ยังไม่ยอมแพ้เพราะในครั้งนี้ มันจะไม่ใช่ข่าวลือสำหรับเกม Mutiplayer ของจักรวาล RE อีกต่อไป เพราะในอีเวนท์นี้พวกเขาได้เปิดตัวเกม RE: Verse Multiplayer ที่ผู้เล่นสู้กันเองได้ด้วยการนำตัวละครที่เราชื่นชอบจากทุกๆ ภาคในจักรวาล RE มาห้ำหั่นกันเอง บนแผนที่ต่างๆ ที่อยู่ในแฟรนไชส์เกมนี้ บอกเลยว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่ทำให้ผู้เล่นติดงอมแงมกันอยู่พักใหญ่แน่ๆ! 7.เป้าหมายของอีธาน นอกจากนี้ทาง Capcom ยังเปิดเผยให้เราหลายๆ คนหายสงสัยอีกด้วยว่าอีธานที่รอดจากเหตุการณ์นรกบนดินจากภาคที่แล้วนั้น จะเดินทางไปหมู่บ้านที่มีแต่ความตายอีกทำไม แต่เรื่องนี้จะเข้าใจได้ทันทีนั่นเพระว่าในครั้งนี้สาเหตุที่เขาจำเป็นต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านและปราสาทต้องสาปนี้ ก็เพราะว่าได้มีใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจเรียกว่าคน ทำการลักพาตัวลูกสาวของอีธานไป นี่จึงเป็นเป้าหมายหลักและแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้อีธานต้องออกโรงอีกครั้งหนึ่ง! แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ได้เจอครอบครัวตัวป่วนอีกแล้ว เขาจะเจออะไรที่น่ากลัวกว่า ดิบกว่าและยิ่งใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นแม่มด มนุษย์หมาป่า หรือสิ่งน่ากลัวอื่นๆ อดใจรอไม่ไหวที่จะเห็นเกมเต็มแล้วครับ! 8.การกระทำที่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ในอนาคต? จำได้ไหมผมเคยบอกว่าตัวเกมภาคนี้จะให้กลิ่นอายของความเป็น Resident Evill 4 ด้วย ดังนั้นมันจะมีจุดหนึ่งที่เราน่าจะจำได้นั่นคือ การกระทำอันเล็กน้อยที่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ครั้งสำคัญ เช่น การให้ลีออนช่วยเหลือเจ้าหมาที่ติดกับดับอยู่ในหมู่บ้านช่วงต้นเกม โดยในฉากสู้กับบอสยักษ์นั้น มันจะออกมาช่อยผู้เล่นด้วย! ( ถ้าเราไม่ช่วยมัน หรือฆ่ามันทิ้ง มันจะไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย ) ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งสเนห์ที่กลับมาให้เห็นและยังมีในช่วงท้ายของการเล่น Resident Evil 7 เช่นกัน นั่นคือช่วงที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือใครในตอนท้ายในระหว่างสองตัวละคร ดังนั้น หวังว่า Resident Evil Village จะนำระบบนี้ใส่เข้ามาด้วยเพราะผมเองก็ชอบระบบนี้มาก! 9.พ่อค้าในตำนานจะกลับมา! เสื้อฮู้ด / สะพายกระเป๋า / หลังค่อม พูดเท่านี้ในจักรวาล RE หลายๆ คนคงจะนึกถึงพ่อค้าอาวุธในภาค Resident Evill 4 และแน่นอนว่าสำหรับ Resident Evil Village ก็จะมีพ่อค้าเช่นกัน แต่ในครั้งนี้พ่อค้าคนใหม่จะมาในร่างของชายผู้อวบอ้วนนามว่า The Duke แต่ในรอบนี้ไม่รู้ว่าเราจะเกรียนพ่อค้าด้วยการฆ่าได้อีกไหม ขอแนะนำว่าถ้าทำได้ก็อย่าหาทำนะครับ ถ้าไม่อยากให้เขาหายไปตลอดการเล่นเกมแบบใน Resident Evill 4 ฮ่าๆๆๆ Credit : TheGamer
27 Jan 2021
ลือ !! Resident Evil Village จะเป็นเกม Cross-Gen
ถ้าหากจะพูดถึงซีรี่ย์เกมด้านความสยองขวัญสุดสะพรึงคงจะเป็นเกมไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Resident Evil ซึ่งช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับ Resident Evil Village ออกมาเป็นอย่างมากมาย อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้คือ ตัวเกมจะเป็น Cross-Gen ทั้งๆ ที่ทาง Capcom ประกาศว่าจะลงบนเครื่องคอนโซลในรุ่นถัดไป !! อย่างไรก็ตามข่าวลือดังกล่าวถูกปล่อยออกมาบนโลก Twitter จาก Dusk Golem ผู้ปล่อยข่าวลือที่มีความเม่นยำเกี่ยวกับ Resident Evil ได้แสดงความเห็นว่าเขายืนยันว่าตัวเกม Resident Evil Village ยังคงจะเป็นเกม cross-gen พร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่าทาง Capcom จะออกมาให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวในเร็วๆ นี้ เนื่องจาก Resident Evil Village จะมีการโชว์รายละเอียดของตัวเกมครั้งใหญ่ในงาน TGS 2020 ช่วงปลายเดือน กันยายนนี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเราจะเห็นประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ในงานดังกล่าวครับ อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นเราคงต้องรอทาง Capcom ออกมายืนยันเรื่องนี้กันอีกครั้งค่ะ ตัวเกม Resident Evil Village มีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงปี 2021 So Ive said before that I know for a fact (before COVID) this game was launching a cross-gen game aiming for a January 2021 release date. Let me just say I got 100% confirm the game is still cross-gen, that will be revealed soon, release date is still aiming for first-half 2021. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) September 22, 2020 Credit: Gamingbolt    
22 Sep 2020
Resident Evill Village เผยความหลอนให้ได้เห็นครั้งแรกในงาน PS5 Showcase
หลังจากมีประกาศเปิดตัวเกมออกมา Resident Evill Village ต่างก็มีเสียงลืออ้างข้อมูลของเกมออกมามากมาย ในที่สุดภายในงาน PS5 Showcase ก็ได้มีการเผยให้เห็นความหลอนของตัวเกมกันแบบจัดเต็มแล้ว ถือว่างาน PS5 Showcase  ในครั้งนี้เปิดตัวกันแบบจัดเต็มแบบไม่หยุดยั้งกันจริงๆ เพราะเปิดเผยรายละเอียดของตัวเกมให้แฟนๆ ต่างได้รับการอัปเดตของตัวเกมที่เฝ้ารอคอยกันแบบจุใจ หนึ่งในเกมที่น่าจับตามองนั้นก็คือ Resident Evill Village ที่ทางผู้พัฒนาได้เผยให้เห็นเรื่องราวบางส่วนของตัวเกมพร้อมทั้งเหล่าศัตรูที่เราจะได้เจอในเกมให้ได้เห็นอีกด้วย โดยวิดีโอตัวอย่างเกมอันล่าสุดที่ทาง SONY ปล่อยออกมานั้นทำให้สามารถยืนยันข่าวลือที่ว่าตัวเกม Resident Evill Village  จะดำเนินเรื่องราวต่อจากภาคที่ 7 จริง และจะไขปริศนาบางอย่างเกี่ยวกับหมู่บ้านพร้อมทั้งอธิบายสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นระหว่าง Ethan กับ Mia ด้วยซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรคงต้องรอติดตามกันตัวเกมเต็มอีกครั้ง สำหรับวันวางจำหน่ายทางผู้พัฒนายังไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องของวัน และเดือนอย่างชัดเจน ซึ่งจากแหล่งข่าวเดิมมีกำหนดว่าตัวเกมจะพร้อมให้ทุกคนเข้าสู่เกมใน 2021 ค่ะ
16 Sep 2020
ลือ !! รายละเอียด เนื้อเรื่อง , ไอเทม , ระบบ ของเกม Resident Evil Village
Capcom เดินหน้าพัฒนาเกมยุคใหม่ให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง Resident Evil Village ที่ประกาศเปิดตัว และจะพร้อมให้เล่นบนเครื่อง Console อย่าง PS5 และ Xbox Series X ก็นับเป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่แฟ่นๆ จับตามอง ก่อนหน้านี้มีข้อมูลยืนยันการพัฒนาระบบของตัวเกมมาบางส่วนแล้ว แต่ยังคงต้องติดตามรายละเอียดส่วนนั้นเพิ่มต่อไป ล่าสุดทาง Dusk Golem ผู้ปล่อยข่าวลือของเกม Resident Evil ที่แม่นยำในหลายๆ ครั้ง ได้โพสต์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า ในภาคของ Resident Evil Village จะมีเนื้อเรื่องที่ดำเนินการต่อจากภาคเดิมๆ อย่าง Resident Evil 4 และ 5 เขายังกล่าวเพิ่มในเรื่องของรายละเอียดตัวเกมจะมีจุดให้ผู้เล่นได้สำรวจมากขึ้นเพื่อตามหาเก็บชิ้นส่วนสมบัติเพื่อสะสมในการแลกรับของเหมือนกับหลายๆ ภาคที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้สรุปว่าตัวเกมจะมีชุดอุปกรณ์แปลกใหม่เข้ามาเพิ่ม และตัวเกมที่เปิดกว้างขึ้นให้ผู้เล่นสามารถดำเนินเรื่องราวตอนจบได้หลายแบบ พร้อมทั้งตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องยาวพอๆ กับภาค 4 หรือ 6 เลยด้วย Resident Evil Village จะพร้อมในทุกคนได้เล่นในปี 2021 บนเครื่อง PS5 , Xbox Series X และ PC (2/3) except theyre more hidden and theres entirely optional stuff to get riches. Youre more free to roam the town, but different parts of the Village have stuff going on & theres sorta "lock-in" points of stuff. Theres a mixture of more linear & more open places, with a — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 29, 2020 Just because I realize some people may take this last comment a bit out of context, let me clarify right now theres set-piece stuff, scripted moments, etc., just theres more wiggle room for exploration & moments of multiple objectives, more risk/reward opportunities. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 29, 2020 Okay LAST RE8 question then work. I dont know the exact play time but Ive heard pretty reliably out of the RE Engine games itll be the longest one. Not the absolute longest RE game, I personally suspect itll be shorter than RE6/RE4, but Ive heard its longer than RE7/RE2/RE3 https://t.co/GgcmfH88f0 — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 29, 2020 Credit: Gamingbolt   
01 Jul 2020
เจาะลึกตัวอย่างของเกม Resident Evil Village แบบ Shot ต่อ Shot
Resident Evil Village หรือ Resident Evil 8 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลายๆ คนจับตามอง โดยเฉพาะเหล่าแฟนเกมที่มีมากมายมหาศาลทั่วโลก วันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาเจาะลึก Trailer ให้มากกว่าที่เคย ในแบบ Shot ต่อ Shot กันเลย Mia เล่านิทานสยองให้ลูกฟัง Mia ได้เล่านิทานเกี่ยวกับหญิงสาวที่เดินเข้าไปในป่า ที่จะต้องเจอกับเรื่องราวสยองขวัญจน Ethan ต้องมาห้าม ซึ่งการเล่านิทานเรื่องนี้อาจจะแสดงให้เห็นถึงธีมเรื่องของภาคนี้ หรืออาจจะเป็นการที่ยังมีเชื้อจากภาคที่ 7 หลงเหลืออยู่ในตัวเธอ ทำให้พฤติกรรมบางอย่างของเธอเปลี่ยนไปก็เป็นได้ ชายสองคนกับการถูกโจมตีโดยอะไรบางอย่าง จากนั้น trailer จะตัดมาที่เรื่องราวของชายแก่คนหนึ่งที่เขากำลังเจอกับเรื่องราวบางอย่าง และสงสัยว่า Ethan อาจจะเป็นสายขององค์กรลับที่ถูกส่งมาจัดการกับเขา ระหว่างนั้นเองเหล่าสิ่งมีชีวิตลึกลับก็โจมตีใส่พวกเขา โดยในจุดนี้จะโชว์ถึงมุมมองการเล่นแบบ FPS อีกด้วย ลัทธิใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในเกม Resident Evil มาก่อน Trailer ได้นำเราไปพบเจอกับสัญลักษณ์ของลัทธิประหลาดที่เป็นลักษณะของตัวอ่อนของมนุษย์ ล้อมรอบไปด้วยปีกอีกาสีดำอันแสนสยดสยอง โดยสัญลักษณ์นี้เราจะได้เห็นหลายครั้งในตัวอย่างทั้งในรูปแบบของรูปภาพ รูปปั้น และสัญลักษณ์ของพิธีกรรม นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ของหญิงสาวที่ถือโล่หัวแพะและเหล่าปีศาจที่คลับคล้ายเหมือนกับลัทธิบูชาซาตาน สังเกตได้จากฉากประตูที่คล้ายกับการเป็นสัญลักษณ์ของขุมนรก ซึ่งเป็นส่วนที่คล้ายๆ กับ Puzzle ให้เราได้ไขปริศนากัน หมู่บ้านลึกลับเหมือนกับว่ายังคงอยู่ในยุคกลาง ภาพก็ได้ตัดมาที่เรื่องราวของหมู่บ้านลึกลับห่างไกลผู้คน ที่ Ethan และ MIA ได้หนีมาอยู่อาศัยหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่ 7 ผ่านไปไม่นาน ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอีกาที่บินอย่างผิดปกติ หรือปศุสัตว์ที่ตายอย่างสยดสยอง พร้อมกับธีมของดินแดนกลางภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ เรื่องราวของตัวละครใหม่ ตัวอย่างเกมได้นำเสนอเรื่องราวของตัวละครใหม่ 3 ตัวละครใหม่(ที่มาใน Trailer) ในหมู่บ้านซึ่งถือว่าเป็นตัวครใหม่ในซีรีส์ Resident Evil โดยพวกเขาเหมือนว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่างหรือเจอเรื่องราวสุดสะพรึงจนไม่สามารถเล่าได้ อันประกอบไปด้วยคนสามคนได้แก่ ชาวแก่ที่ถือปืนโบราณ มนุษย์ลุงคนหนึ่งและหญิงสาวชุดดำ ที่รอให้ผู้เล่นได้ค้นหาว่าพวกเขาเป็นใคร สัญลักษณ์ของ Umbrella ปรากฏอีกครั้ง หลังจากเกม Resident Evil 3 เป็นต้นมาองค์ Umbrella ตกต่ำลงอย่างชัดเจน จนทำให้องค์กรอื่นๆ สามารถที่จะแซงหน้าขึ้นมาได้ อย่าง The Contention ที่ได้กลายเป็นองค์กรใหญ่และมีข่าวลือว่าเป็นองค์กรร้ายในภาคนี้ ซึ่งการที่มีสัญลักษณ์ Umbrella แสดงว่าทั้งสององค์กรนี้อาจจะมีบางอย่างที่เชื่อมกันอยู่ก็เป็นได้ แม่มดแห่งศตวรรษที่ 21? หากนึกถึงยุคกลางหลายๆ คนต้องนึกถึงบรรดาเหล่าแม่มดเป็นแน่แท้ โดยในตัวอย่างของเกมเราจะเห็นหญิงชราคนหนึ่งที่แต่งตัวแปลกๆ ราวกับว่าเป็นแม่มด และเหมือนว่าเธอมีแผนการบางอย่างในใจ ซึ่งไม่แน่เธออาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในลัทธิลึกลับก็เป็นได้ เหล่าขุนนางชั้นสูงกับองค์กรลึกลับ ในขณะที่คนในหมู่บ้านมักจะแต่งตัวอย่างสามัญชน เราจะเห็นได้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวดูดีกว่าอย่างชัดเจน รวมถึงอยู่ในปราสาทหรู โดยมีสตรีสูงศักดิ์สวมชุดสีขาวเป็นเหมือนกับคนคอยบงการเรื่องราวต่างๆ ซึ่งดูเหมือนว่าสตรีกลุ่มนี้จะมีพลังพิเศษ รวมถึงความวิกลจริตที่ยากจะหาใครเทียบได้และดูเหมือนว่าพระเอก บุคคลปริศนา หนึ่งในสิ่งที่หลายๆ คนสงสัยในภาคนี้ว่าเขาเป็นใคร โดยสมมุติฐานแบ่งออกเป็นสองสายคือ Luis Sera (Resident Evil 4) ที่แม้ว่าเขาจะถูก Osmund Saddler ฆ่าตายไปแล้ว แต่ในจักรวาลของ Resident Evil ทุกๆ อย่างเป็นไปได้เสมอ อีกทั้งธีมของภาคนี้เองก็เป็นยุโรปในยุคกลางทำให้เป็นไปได้สูงว่านี่อาจจะเป็นเขา ในอีกสมมุติฐานหนึ่งนี่อาจจะเป็นตัวละคร Daniel Fabron นักวิทยาศาสตร์มือขวาของ Alex wesker ที่อาจจะแปรพักต์ไปอยู่กับ The Connection ก็เป็นไปได้เช่นกัน มนุษย์หมาป่าและ Executioner ตามข่าวลือที่หลุดมาก่อนหน้านี้แบบตรงเป๊ะสำหรับศัตรูของภาคนี้ที่จะเป็นมนุษย์หมาป่า ทำให้ภาคนี้ธีมของเกมจะไม่ใช่การตะลุยดงผีดิบ ซึ่งในเกม Resident Evil 7 ทาง Capcom ก็ได้พยายามที่จะนำเสนอศัตรูชนิดใหม่มาให้เหล่าผู้เล่นได้สัมผัส ซึ่งการมีมนุษย์หมาป่าเช่นนี้ก็เป็นที่น่าสนใจว่าทีมงานจะมาไม้ไหน นอกจากมนุษย์หมาป่าแล้ว Executioner  หรือมนุษย์ค้นยักษ์ยังคงตามมาหลอกหลอนเหล่าผู้เล่นในภาคนี้ ทำให้นี่คือการปะทะกันครั้งแรกของ Ethan กับศัตรูตัวนี้ ในส่วนของความโหดนั้นคงต้องรอพิสูจน์เอาในเกม Chris Redfield ในบทของตัวร้าย? ทำเอาเหล่าแฟนๆ Resident Evil ต้องนั่งดู Trailer กันหลายๆ รอบลอยทีเดียวเมื่อ Chris มาพร้อมกับเหล่า Blue Umbrella บุกไปยังบ้านของ Ethan พร้อมสังหารภรรยาของเขาอย่างไร้ความปราณี ทำเอาแฟนๆ ตั้งคำถามว่าเขาทำไมต้องทำแบบนี้ วัตถุประสงค์จริงๆ คืออะไรกันแน่ Resident Evil 8 มีกำหนดการวางจำหน่ายในปี 2021 อ้างอิง Resident Evil 8 Trailer Resident Evil Fandom gamesradar
29 Jun 2020
ข่าวลือ! Resident Evil 8 อาจจะรองรับระบบ VR!
จากเกมใหม่ทั้งหมดที่ประกาศลงเครื่อง PlayStation 5 นั้น Resident Evil 8 เป็นเกมที่แฟนๆ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ นับแต่การวางจำหน่ายของภาค 7 แฟนๆ ก็รอการมาของภาค 8 มาโดยตลอด และในตอนนี้ได้มีการข่าวลือเรื่องใหม่มาว่าภาคนี้จะรองรับ PlayStation VR ด้วยครับ นับตั้งแต่การเปิดตัวของ Resident Evil 8 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เราก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมมากนัก แต่ก็ได้มีข่าวลือจำนวนมากแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์จากนักปล่อยข่าวลือรายหนึ่งที่หลายๆ คนรู้จักกันดี Dusk Golem โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองยืนยันว่า การรองรับ PlayStation VR สอดคล้องกับอัตราเฟรมเรทของเกม แม้ว่าตัว Dusk Golem จะเคยบอกว่า เกมนี้จะไม่รองรับ PSVR แต่ตอนนี้เกมดังกล่าวดูเหมือนจะยอมรับระบบนี้เมื่อพิจารณาจากความนิยมของ Resident Evil 7 VR อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ดังนั้นผู้เล่นทุกท่านไม่จำเป็นที่จะต้องคาดหวังมากจนเกินไปนัก นอกเสียจากว่าทาง Capcom หรือ ทีมผู้พัฒนาออกมาประกาศในเรื่องนี้ For anyone worried about RE8s frame rate, dont. The trailer played kinda weirdly on the stream, but the game does support PSVR from what I hear so they will be aiming for a stable 60fps. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 11, 2020 Credit : Gamerant สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
23 Jun 2020
ลือ! เหตุที่ Resident Evil 8 ไม่ลง PS4 เป็นเพราะสเปคเครื่องต่ำเกินไป
Resident Evil 8 มีกำหนดจะวางจำหน่ายบน PS5 ในช่วงปี 2021 ซึ่งก่อนที่เกมนี้จะเป็นตัวอย่างเป็นทางการ เราก็ได้เห็นข่าวลือต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเกมนี้ถูกปล่อยออกมา และหนึ่งในข่าวลือที่สุดท้ายแล้วก็เป็นได้แค่ข่าวลือก็คือเรื่องที่เกมนี้จะลงข้ามรุ่นระหว่าง PS4 และ PS5 ครับ Dusk Golem ที่แฟนเกมซีรีส์ Resident Evil ส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีจากการที่เป็นคนปล่อยข่าวลือของเกมซีรีส์นี้เป็นคนแรกเสมอ (ส่วนใหญ่จะเป็นความจริงด้วย) และล่าสุดเขาได้โพสต์ข้อความบน Twitter บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไม Resident Evil 8 ถึงไม่ลงใน Console รุ่นปัจจุบัน Dusk Golem กล่าวว่าที่ Resident Evil 8 ไม่ลงในเครื่อง Console รุ่นปัจจุบันอย่าง PS4 เนื่องจากเหตุผลด้านสเปคของเครื่อง หากทีมพัฒนาจะทำให้ตัวเกมลงในเครื่อง PS4 ได้ พวกเขาจะต้องลดคุณภาพของเกมลงมากๆ เนื่องจากตัวเกมมี Load Zone ที่เยอะ ทำให้เกิดการใช้เวลาโหลดฉากนาน ดังนั้นผู้พัฒนาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยตัวเกมเฉพาะ Console รุ่นถัดไป เพื่อให้เกมนั้นไม่มีการโหลดฉากเลย เรื่องนี้มีความน่าเชื่อถือมากครับ เมื่อมองจากคุณภาพของกราฟิกที่เราได้ดูจากตัว Trailer ที่ปล่อยออกมา ตัวเกมจะมีทั้งภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะที่สวยงาม, มนุษย์หมาป่า, และแม่มด ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเกม RE8 จำเป็นต้องใช้ความสามารถของเครื่องที่สูงจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกินจริง (1/3) Okay, I got some clarification on why they made RE8 next-gen only, when it was cross-gen previously. With the updated graphic fidelity overhaul theyre doing (still in progress), the way RE8 was designed lead to past-gen consoles having a lot of pop-in/long texture loads/ — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 13, 2020 (2/3) load times because the game has you travelling through most of the Village and had a lot of load zones. Because theres a bigger focus on exploration this would lead to the last-gen console versions having notable issues, and it was holding back how pretty they could make — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 13, 2020 (3/3) certain scenes. So they decided to drop the last-gen versions of the game to make it so the game had no loading at all (not limited by last gen hardware) and push the graphic overhaul further without the limitations of last-gen tech in mind. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 13, 2020 Credit : PSU สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
15 Jun 2020
เปิดตัว Resident Evil 8: Village กับการรับบทเป็น Ethan อีกครั้งบนหมู่บ้านประหลาด
หลังจากที่มีข่าวลือมานานสำหรับ Resident Evil 8 ล่าสุดก็เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในงาน The Future of Gaming ของทาง PlayStation โดยเกมภาคนี้ใช้ชื่อว่า Resident Evil 8: Village ซึ่งตัวละครที่เราได้เล่นก็จะเป็น Ethan Winters และมุมมองภายในเกมก็จะกลับไปใช้มุมมองแบบ 1st Person เช่นเดิม เรื่องราวของภาคนี้เราจะต้องเอาตัวรอดจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่จะต้องพบเจอกับทั้งแม่มดและมนุษย์หมาป่าพร้อมกับคนประหลาดอีกมากมาย ซึ่งตรงตามข่าวลือก่อนหน้าที่เคยออกมาทุกอย่าง ( LINK ) และที่เซอร์ไพรส์ก็คือหนึ่งในตัวละครหลักของซีรีส์นี้อย่าง Chris Redfield เองก็ยังมีบทบาทในภาคนี้เช่นเดิม เพียงแต่ว่ารูปร่างของเขานั้นดูอ้วนและแก่มากขึ้น Resident Evil 8: Village มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2021 บนเครื่อง PS5 Credit: Gamingbolt
11 Jun 2020
รายการพรีออเดอร์เกม Resident Evil 8 ปรากฏบนหน้าเว็บร้านขายเกมของเยอรมัน
Resident Evil คือซีรีส์เกมที่มีแฟนเกมเฝ้ารอภาคต่ออยู่เป็นจำนวนมาก และแม้เราจะไม่รู้รายละเอียดของ Resident Evil 8 ที่เป็นภาคใหม่ของซีรีส์เกมนี้มากนัก แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าชื่อของเกมนี้ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าเว็บร้านขายเกมของเยอรมัน แถมยังให้พรีออเดอร์ได้ด้วยครับ! เว็บร้านขายเกมของเยอรมันที่ว่าคือร้าน GamesOnly โดยรายการสั่งซื้อดังกล่าวได้ถูกลบไปในเวลาต่อมา แต่ก็มีคนเก็บภาพเอาไว้ได้ ข้อมูลที่ทางร้านเขียนในข้อมูลสินค้ามีไม่มากนัก ไม่มีวันวางจำหน่าย มีเพียงราคา กับรูปปกเกมที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น แต่ชื่อภาคเกมในรายการสั่งซื้อนั้นได้อิทธิพลมาจากข่าวลือเรื่องชื่อเกมภาคนี้จะใช้ชื่อว่า Village มันยากที่จะบอกว่าเรื่องนี้มีอะไรเกี่ยวกับเกมที่กำลังจะประกาศเร็วๆ นี้หรือไม่ แต่เรารู้ว่า Capcom กำลังวางแผนที่จะทำบางอย่างในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ มันอาจเป็นการประกาศเรื่อง Resident Evil 8 ก็ได้ครับ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
09 Jun 2020
ลือ !! Resident Evil 8 จะรองรับระบบ VR เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับตัวเกม Resident Evil 8 ออกมามาหมาย ( Link ) รวมถึงยังมีการพูดกันอีกว่าตัวเกมภาคนี้ก็ยังจะกลับไปใช้การเล่นแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งดั่งใน Resident Evil 7 ซึ่งมันก็สอดคล้องกับข้อมูลใหม่ว่า เกมภาคล่าสุดนี้ก็ยังจะรองรับการเล่นแบบ VR เช่นเดิม ซึ่งถ้าหากว่า Resident Evil 8 มุมมองการเล่นแบบบุคคลที่หนึ่งจริง มันก็พอจะเดาได้แหละว่าตัวเกมน่าจะรองรับ VR อย่างแน่นอน ซึ่งกระแสของระบบนี้ก็ค่อนข้างเข้ากันกับเกมอยู่แล้ว ดูได้จากสิ่งที่เคยทำไปใน Resident Evil 7 ที่มันสร้างความน่ากลัวได้มากขึ้น แต่กระแสที่แบ่งกันเป็นสองฝ่ายน่าจะอยู่ที่มุมมองของเกมมากกว่า เพราะหลายๆ คนเองก็ชอบแบบการเล่นมุมมองบุคคลที่สามดั่งเกม Resident Evil 2-3 Remake มากกว่ามุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่าง Resident Evil 7 เพราะมันให้อารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเหมือนเกมคนละซีรีส์ ลือว่า !! Resident Evil 8 อาจจะวางจำหน่ายในปี 2021 เป็นเกม Cross-Gen รวมถึงยังมีข่าวอีกว่ากำลัง Remake เกม Resident Evil 4 อีกด้วย ที่มา Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
14 Apr 2020
หลุดข้อมูลชุดใหญ่! เกม Resident Evil 8: Village จากคนที่ได้ไปเล่น Test Demo
เรียกได้ว่ามาแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ กับเกมซีรีส์ Resident Evil เพราะหลังจากที่เกม Resident Evil 3 Remake วางจำหน่ายได้ไม่นาน เมื่อคืนนี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับเกม Resident Evil 8 ว่าจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้าออกมา สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก แต่นั้นยังไม่ใช้ทั้งหมดครับ เพราะล่าสุดก็มีข้อมูลชุดใหญ่มากๆ หลุดออกมาบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ที่ปล่อยออกมาได้อ้างว่า นี้เป็นข้อมูลที่เขาได้มาจากเหล่าคนที่ได้เข้าไปเล่นเกมตัว Test Demo มาครับ! ข้อมูลชุดใหญ่ในครั้งนี้ถูกปล่อยออกมาทางเว็บไซต์ Relyonhorror ซึ่งภายในโพสต์ดังกล่าวได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ผู้เขียนอ้างว่าได้มาจากเหล่าคนที่เข้าไปเล่นตัว Test Demo ของเกม ซึ่งทางเราได้แปล และสรุปให้เข้าใจง่ายๆ เอาไว้แล้ว สามารถอ่านได้ข้างล่างนี้เลยครับ Resident Evil 8 มีชื่อภาคว่า VILLAGE: RESIDENT EVIL,  โดยตัวอักษร VILL ถูกใช้เป็นตัวแทนของเลข 8 เหมือนกับกับ RE7 ที่ใช้เลขโรมันแทนที่จะเป็นเลขอารบิก ฉากเปิดของเกมจะเป็นเหมือนว่า ตัวละครเราเกิดอาการช็อกจากการโดนบางสิงบางอย่าง (เหมือนโดน Flash Bang หรือ Stun Grenade ) ก่อนที่ Chris Redfield จะเข้ามาช่วยเรา ซึ่ง Model ของ Chris ที่เหล่าคนที่ได้เข้าไปเล่นตัว Test Demo เล่าให้ฟังนั้นแตกต่างกันออกไป บ้างก็ว่าเหมือนใน RE7 บ้างก็ว่าไม่เหมือน Chris ในภาคไหนเลย, และมีบางคนบอกว่าจะได้เห็น Mia Winters ที่กำลังตั้งครรภ์ในภาคนี้ด้วย แต่บ้างก็บอกว่าลูกของเธอได้คลอดออกมาแล้ว Ethan จะยังคงเป็นพระเอกของภาคนี้ และเขายังคงเป็นคนที่ฉลาด แต่มีอารมณ์ที่ร้อนง่ายเหมือนเดิม มีการทดลองใช้ Inventory หลายแบบมากๆ บางคนได้เล่นเวอร์ชั่นที่ใช้ Inventory แบบเดียวกับภาค 7 , บางคนได้เล่นเวอร์ชั่นที่ใช้ระบบกล่องแบบเดียวกับภาค 4 ในเวอร์ชั่น Demo เกมจะเริ่มในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนภูเขาหิมะ เราจะได้เล่นเป็น Ethan สำรวจสถานที่ต่างๆ ในหมู่บ้าน ได้คุยกับเหล่า NPC เพือ่อดำเนินเนื้อเรื่อง แต่เหล่า NPC ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ ภาคนี้จะมีศัตรูแบบใหม่ที่เป็นมนุษย์หมาป่าด้วย ในจุดนี้คำพูดของคนที่ได้เข้าไปทดลองเล่นมีด้วยกัน 2 แบบคือ 1). เราจะไม่มีอาวุธอะไรเลย และจำเป็นต้องพยายามหลบ หรือย่องผ่านเอา, 2). Ethan จะมีปืนสั้น แต่ว่ากระสุนจากปืนสั้นจะไม่สามารถทำอะไรพวกมนุษย์หมาป่าได้เลย สรุปก็คือต้องหลบ หรือไม่ก็ย่องหนีเหมือนกัน ผู้เล่นจะมีปืนลูกซองให้ใช้ในภาคนี้เหมือนกัน และมันสามารถทำสู้กับพวกมนุษย์หมาป่าได้ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถสร้าง barricade เพื่อใช้ในการชะลอการโจมตีของศัตรูได้ ในบางเวอร์ชั่นเมื่อสู้ไปสักพักจะมีเสียงระฆังดังขึ้น แล้วเหล่ามนุษย์หมาป่าจะวิ่งหนีไป เหมือนกับว่าพวกมันถูกเรียกโดยบางสิ่งบางอย่าง ตัวเกมให้บรรยากาศที่เหมือนกับ Resident Evil 4 มากๆ เหล่ามนุษย์หมาป่าจะมีหัวหน้าด้วย ซึ่งเธอเป็นตัวละครเพศหญิง ที่มีรูปร่างใหญ่โตเหมือน Gorilla ซึ่ง Ethan จะโดนเธอตามล่าอย่างไม่หยุดหย่อน และเธอมีเสียงหัวเราะที่มีเอกลักษณ์มากๆ ผู้เล่นจะรู้ได้ทันที่เลยว่าเธออยู่ใกล้ๆ แล้ว ใน Demo บางเวอร์ชั่นก็เป็นการหนีออกจากปราสาทแทน ผู้เล่นจะได้พบกลุ่มชาวบ้าน ก่อนที่จะคุยกันถึงเรื่องสถานที่ซึ่งจะใช้หลบภัย อยู่ดีๆ ชาวบ้านคนหนึ่งในกลุ่มก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เริ่มโจมตีและฆ่าคนอื่น ผู้เล่นจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้หญิงคนหนึ่งให้เข้าไปหลบในบ้าน ในขณะที่ชาวบ้านที่คลุ้มคลั่งเริ่มที่จะจุดไฟเผาบ้านหลังนั้น นับว่าเป็นข้อมูลชุดใหญ่จริงๆ ที่หลุดออกมาในครั้งนี้ แต่ผู้เขียนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอันไหนจริง อันไนหเท็จ ขนาดตอนที่นั่งอ่านเองยังมีความรู้สึกว่ามันหลุดจากคำจำกัดความเกี่ยวกับ Resident Evil ที่มีในหัวไปไกลมากๆ เลยเหมือนกัน ต้องรอดูต่อไปว่า ข้อมูลเหล่านี้จะจริงแค่ไหนครับ Credit: Relyonhorror ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
08 Apr 2020
GameFever TH | เพราะเกมคือชีวิต
ผลการค้นหา : "Resident Evil 8: Village"
ผู้พัฒนา Capcom ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแบบตัวละคร Lady Dimitrescu แวมไพร์สาวใหญ่ขวัญใจชาวเน็ต
สำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักตัวละคร Lady Dimitrescu จากเกม Resident Evil 8: Village อีกแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงส่วนสูงกว่า 292 เซนติเมตร ทำให้แวมไพร์สาวใหญ่คนนี้ (ซึ่งใหญ่จริงๆ นั่นแหละ) กลายเป็นตัวละครขวัญใจชาวเน็ตชั่วข้ามคืน ที่มีมีมและสาวกแฟนบอยที่รอคอยให้เธอเหยียบย่ำอยู่เต็มไปหมด ล่าสุด ทางเว็บไซต์ IGN ก็ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ของเกมคุณ Tomonori Takano ที่เป็นคนออกแบบตัวละครเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและแนวคิดในการออกแบบตัวละคร ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจหลายอย่าง คุณ Takano บอกว่าทีมพัฒนาตัดสินใจได้ตั้งแต่ต้นๆ แล้วว่าอยากจะสร้างเกม Resident Evil ภาคใหม่ภายใต้ธีมแวมไพร์ในประสาทยุโรปโบราณ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ได้อยากจะเดินตามรอยของแวมไพร์ที่เห็นได้ในสื่อทั่วไปเช่นเดียวกัน สำหรับแรงบันดาลใจเบื้องหลังตัวละคร Lady Dimitrescu เขาบอกว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครในคอนเซฟต์ "แวมไพร์สาวผู้เย้ายวน" ที่มีความคลาสสิค แต่ก็อยากใส่ตัวตนของพวกเขาเองลงไปด้วย โดยเขาเลือกแหล่งอ้างอิงรูปลักษณ์ของตัวละครจากบุคคลและ/หรือตัวละคร 3 อย่างด้วยกัน แรงบันดาลใจแรกของพวกเขามาจาก Elizabeth Báthory ขุนนางหญิงชางฮังการีในศตวรรสที่ 16 ที่ได้รับขนานนามเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ว่ากันว่าคร่าชีวิตหญิงสาวในละแวกนั้นไปมากกว่า 650 คนเลยทีเดียว (ไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัดได้) โดยจากคำบอกเล่าของผู้คนในสมัยนั้น เธอมักจะจับเหยื่อมาทรมานและปลิดชีพด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมมากมาย ทั้งการทุบตี การใช้ไฟเผา หรือกระทั่งการกัดกินใบหน้าของเหยื่อ ก่อนจะนำเลือดของเหยื่อมาดื่มหรืออาบ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้เธอเป็นสาวไปตลอดกาล [caption id="attachment_78770" align="aligncenter" width="231"] ภาพวาดของ Elizabeth Báthory (วาดขึ้นในปี 1585)[/caption] แรงบันดาลใจแหล่งที่สองมาจากเรื่องเล่าสยองขวัญของชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับผีสาวร่างสูงที่ชื่อว่า Hashaku-sama โดยตามตำนานเล่าว่า Hashaku-sama จะมีรูปร่างเป็นหญิงสาวร่างสูง (เกินสองเมตร) ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับหมวกปีกกว้างสีขาว เธอมักจะหลอกหลอนเด็กหนุ่มหรือชายชราที่เธอหมายปอง และทำให้ชายผู้โชคร้ายเหล่านั้นเสียชีวิตลงอย่างปริศนาในเวลาไม่นาน [caption id="attachment_78771" align="aligncenter" width="202"] Hashaku-sama[/caption] สุดท้ายคือตัวละคร Morticia Addams ตัวละครแม่มดจากภาพยนตร์ Addams Family ที่รับบทโดยนักแสดง Anjelica Huston ในปี 1991 และ 1993 [caption id="attachment_78772" align="aligncenter" width="1024"] Anjelica Huston ในบท Morticia Addams (1991)[/caption] คุณ Takano กล่าวว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครวายร้ายที่แตกต่างจากวายร้ายเพศหญิงที่ผ่านๆ มาในซีรี่ส์ Resident Evil อย่าง Lisa Trevor ที่มีลักษณะเป็นปีศาจหน้าตาน่าเกลียดไปเลย หรืออย่าง Alexia Ashford ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่กลายเป็นปีศาจ แต่เขาอยากให้ Lady Dimitrescu อยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างตัวละครทั้งสอง ตรงที่แม้ว่าเธอจะมีรุปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากมนุษย์ปกตินัก แต่ก็มีความน่าเกรงขามและความเป็น "อมนุษย์" ที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน "ในการสร้างตัวละครใหม่ ผมและทีมงานต้องกลับไปวิเคราะห์ตัวละครปีศาจที่ผ่านๆ มาของเราทั้งหมด และตั้งคำถามกับตัวเองว่าพวกมันเหล่านั้นยังน่ากลัวอยู่จริงๆ ไหม หรือว่ามันเป็นความน่ากลัวที่ถูกใช้บ่อยจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วสำหรับผู้เล่น" คุณ Takano บอกว่าเขาและทีมงานจำเป็นต้องลบภาพจำของซอมบี้และอาวุธชีวภาพในหัวตัวเองออกไปทั้งหมด และเริ่มตั้งต้นคิดกันใหม่ว่าอะไรกันแน่ที่จะสามารถสร้าง "ความกลัว" ในใจของผู้เล่นได้ พวกเขาเลือกที่จะต่อยอดมาจากแนวคิด "ความชั่วร้าย" ที่อยู่เบื้องหลังเกม Resident Evil 7 อีกครั้ง และ Lady Dimitrescu ก็คือผลลัพธ์ของแนวคิดนั้น เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีหน้าตา "น่ากลัว" ซะทีเดียว แต่ก็ทำให้รู้สึกกลัวได้จากวาจาท่าทางอันเป็นอมนุษย์ของเธอ ทั้งนี้ คุณ Takano ก็ยอมรับว่าเขาและทีมออกแบบไม่คิดไม่ฝันเลยว่า Lady Dimitrescu จะได้รับความนิยมจากหมู่ผู้เล่นได้มากขนาดนี้ โดยส่วนตัวเขาเองยังรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เห็นแฟนๆ ออกความเห็นทำนองว่า "อยากโดนเธอวิ่งไล่จังเลย" Credit: IGN
11 Feb 2021
ผู้พัฒนา Capcom ให้สัมภาษณ์ถึงการออกแบบตัวละคร Lady Dimitrescu แวมไพร์สาวใหญ่ขวัญใจชาวเน็ต
สำหรับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ เชื่อว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักตัวละคร Lady Dimitrescu จากเกม Resident Evil 8: Village อีกแล้ว ด้วยรูปร่างหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์ไปจนถึงส่วนสูงกว่า 292 เซนติเมตร ทำให้แวมไพร์สาวใหญ่คนนี้ (ซึ่งใหญ่จริงๆ นั่นแหละ) กลายเป็นตัวละครขวัญใจชาวเน็ตชั่วข้ามคืน ที่มีมีมและสาวกแฟนบอยที่รอคอยให้เธอเหยียบย่ำอยู่เต็มไปหมด ล่าสุด ทางเว็บไซต์ IGN ก็ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่งผู้กำกับศิลป์ของเกมคุณ Tomonori Takano ที่เป็นคนออกแบบตัวละครเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับแรงบันดาลใจและแนวคิดในการออกแบบตัวละคร ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจหลายอย่าง คุณ Takano บอกว่าทีมพัฒนาตัดสินใจได้ตั้งแต่ต้นๆ แล้วว่าอยากจะสร้างเกม Resident Evil ภาคใหม่ภายใต้ธีมแวมไพร์ในประสาทยุโรปโบราณ แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ไม่ได้อยากจะเดินตามรอยของแวมไพร์ที่เห็นได้ในสื่อทั่วไปเช่นเดียวกัน สำหรับแรงบันดาลใจเบื้องหลังตัวละคร Lady Dimitrescu เขาบอกว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครในคอนเซฟต์ "แวมไพร์สาวผู้เย้ายวน" ที่มีความคลาสสิค แต่ก็อยากใส่ตัวตนของพวกเขาเองลงไปด้วย โดยเขาเลือกแหล่งอ้างอิงรูปลักษณ์ของตัวละครจากบุคคลและ/หรือตัวละคร 3 อย่างด้วยกัน แรงบันดาลใจแรกของพวกเขามาจาก Elizabeth Báthory ขุนนางหญิงชางฮังการีในศตวรรสที่ 16 ที่ได้รับขนานนามเป็นฆาตกรต่อเนื่องหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ว่ากันว่าคร่าชีวิตหญิงสาวในละแวกนั้นไปมากกว่า 650 คนเลยทีเดียว (ไม่สามารถยืนยันตัวเลขที่แน่ชัดได้) โดยจากคำบอกเล่าของผู้คนในสมัยนั้น เธอมักจะจับเหยื่อมาทรมานและปลิดชีพด้วยวิธีที่โหดเหี้ยมมากมาย ทั้งการทุบตี การใช้ไฟเผา หรือกระทั่งการกัดกินใบหน้าของเหยื่อ ก่อนจะนำเลือดของเหยื่อมาดื่มหรืออาบ ด้วยความเชื่อที่ว่าจะทำให้เธอเป็นสาวไปตลอดกาล [caption id="attachment_78770" align="aligncenter" width="231"] ภาพวาดของ Elizabeth Báthory (วาดขึ้นในปี 1585)[/caption] แรงบันดาลใจแหล่งที่สองมาจากเรื่องเล่าสยองขวัญของชาวญี่ปุ่นเกี่ยวกับผีสาวร่างสูงที่ชื่อว่า Hashaku-sama โดยตามตำนานเล่าว่า Hashaku-sama จะมีรูปร่างเป็นหญิงสาวร่างสูง (เกินสองเมตร) ที่มักจะปรากฏตัวพร้อมกับหมวกปีกกว้างสีขาว เธอมักจะหลอกหลอนเด็กหนุ่มหรือชายชราที่เธอหมายปอง และทำให้ชายผู้โชคร้ายเหล่านั้นเสียชีวิตลงอย่างปริศนาในเวลาไม่นาน [caption id="attachment_78771" align="aligncenter" width="202"] Hashaku-sama[/caption] สุดท้ายคือตัวละคร Morticia Addams ตัวละครแม่มดจากภาพยนตร์ Addams Family ที่รับบทโดยนักแสดง Anjelica Huston ในปี 1991 และ 1993 [caption id="attachment_78772" align="aligncenter" width="1024"] Anjelica Huston ในบท Morticia Addams (1991)[/caption] คุณ Takano กล่าวว่าทีมพัฒนาต้องการจะสร้างตัวละครวายร้ายที่แตกต่างจากวายร้ายเพศหญิงที่ผ่านๆ มาในซีรี่ส์ Resident Evil อย่าง Lisa Trevor ที่มีลักษณะเป็นปีศาจหน้าตาน่าเกลียดไปเลย หรืออย่าง Alexia Ashford ที่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่กลายเป็นปีศาจ แต่เขาอยากให้ Lady Dimitrescu อยู่ตรงจุดกึ่งกลางระหว่างตัวละครทั้งสอง ตรงที่แม้ว่าเธอจะมีรุปลักษณ์ภายนอกไม่ต่างจากมนุษย์ปกตินัก แต่ก็มีความน่าเกรงขามและความเป็น "อมนุษย์" ที่ชัดเจนเช่นเดียวกัน "ในการสร้างตัวละครใหม่ ผมและทีมงานต้องกลับไปวิเคราะห์ตัวละครปีศาจที่ผ่านๆ มาของเราทั้งหมด และตั้งคำถามกับตัวเองว่าพวกมันเหล่านั้นยังน่ากลัวอยู่จริงๆ ไหม หรือว่ามันเป็นความน่ากลัวที่ถูกใช้บ่อยจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วสำหรับผู้เล่น" คุณ Takano บอกว่าเขาและทีมงานจำเป็นต้องลบภาพจำของซอมบี้และอาวุธชีวภาพในหัวตัวเองออกไปทั้งหมด และเริ่มตั้งต้นคิดกันใหม่ว่าอะไรกันแน่ที่จะสามารถสร้าง "ความกลัว" ในใจของผู้เล่นได้ พวกเขาเลือกที่จะต่อยอดมาจากแนวคิด "ความชั่วร้าย" ที่อยู่เบื้องหลังเกม Resident Evil 7 อีกครั้ง และ Lady Dimitrescu ก็คือผลลัพธ์ของแนวคิดนั้น เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีหน้าตา "น่ากลัว" ซะทีเดียว แต่ก็ทำให้รู้สึกกลัวได้จากวาจาท่าทางอันเป็นอมนุษย์ของเธอ ทั้งนี้ คุณ Takano ก็ยอมรับว่าเขาและทีมออกแบบไม่คิดไม่ฝันเลยว่า Lady Dimitrescu จะได้รับความนิยมจากหมู่ผู้เล่นได้มากขนาดนี้ โดยส่วนตัวเขาเองยังรู้สึกแปลกๆ ทุกครั้งที่เห็นแฟนๆ ออกความเห็นทำนองว่า "อยากโดนเธอวิ่งไล่จังเลย" Credit: IGN
11 Feb 2021
[Review] Resident Evil Re:Verse การรวมดาวตัวดีและร้ายแห่งจักรวาลผีชีวะ เกมดีที่คนมองแค่เปลือก!
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้เกวลินหายนานคิดถึงกันหรือเปล่าคะ >,.< วันนี้เกลวินเองได้มีโอกาสเข้าร่วมทดสอบตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” โหมดออนไลน์ตัวใหม่ล่าสุดที่จะเรียกว่าเป็นการรวมดาวตัวละครจากซีรีส์ Resident Evil ให้เราได้เล่นกันออนไลน์ต่อสู้กับผู้เล่นคนอื่น ๆ โดยตัวเกมจะแถมมาให้กับผู้เล่นที่ซื้อตัวเกม Resident Evil Village เท่านั้นนะคะ ไม่ได้เปิดให้บริการหรือขายแยกแต่อย่างใดค่ะ ซึ่งการทดสอบตัวเกมในช่วง Closed Beta ที่ผ่านมาก็ถือได้ว่า “ตัวเกมถูกจริตแฟนซีรีส์นี้ แล้วก็มีคนที่ไม่ชอบและเกลียดเกมนี้” พอตัวเลย เอาเป็นว่าการรีวิว [Review] นี้เป็นประสบการณ์จากการเล่นจริงจากตัวเกวลินเองค่ะ อธิบายก่อนว่าตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” คือโหมดออนไลน์ที่ทาง Capcom พัฒนาขึ้นมานี้ เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 25 ปีของเกม Resident Evil ต้องยอมรับก่อนว่าตอนที่เปิดตัวทีเซอร์แรกเกมเมอร์ส่วนใหญ่ต่างไม่ชอบเท่าที่ควร ด้วยความที่ว่าในทีเซอร์ยิงกันก็ไม่โดน ตัดต่อก็เอ่อ...พูดตรงๆ ก็ “ห่วยแตกมั๊ก!” มันจึงไม่แปลกเลยที่ยอดกดดิสไลค์มันจะถล่มทลายได้ขนาดนั้น ในระหว่างนั้นก็มีการเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมทดสอบตัวเกมนี้ด้วย โชคดีมากที่เกวลินได้ Beta Key มา 2 ตัวด้วยกันค่ะ แล้วการทดสอบตัวเกมในช่วง Closed Beta มีเฉพาะเครื่องคอนโซล PlayStation 4 และ Xbox One เท่านั้นนะคะ ตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” จะให้เราได้รับบทเป็นตัวละครต่างๆ จากซีรีส์ Resident Evil ทั้งตัวละครเอกที่เราคุ้นเคยกันดี ไปจนถึงเหล่าพวกอาวุธชีวภาพหลายประเภท สิ่งเหล่านี้คุณจะได้สัมผัสภายในเกมนี้อย่างแน่นอน ในด้านของระบบเกมเพลย์จะเป็นแนว Action Shooting แล้วโหมดการเล่นจะมีเพียงแค่เราจะต้องสังหารผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อเก็บคะแนนให้มากที่สุด ใครที่ทำคะแนนจากการสังหารมากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะไปค่ะ โดยเริ่มเกมเราจะต้องเลือกตัวละครว่าจะเล่นเป็นใคร ซึ่งเมื่อเลือกแล้วเราจะไม่สามารถเปลี่ยนตัวละครได้จนกว่าจะจบเกม แต่ละตัวละครก็จะมีอาวุธและสกิลที่แตกต่างกันออกไปไม่มีความเหมือนกันเลยค่ะ ตัวละครเอกที่มีให้เราได้เล่นในช่วง Closed Beta ประกอบไปด้วย Chris Redfield เลือกใช้โมเดลตัวละครมาจากภาค Resident Evil 7 Jill Valentine เลือกใช้โมเดลตัวละครมาจากภาค Resident Evil 3 Remake Leon S. Kenney เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake Claire Redfield เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake Ada Wong เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake Hunk เลือกใช้โมเดลตัวละครจากภาค Resident Evil 2 Remake สิ่งที่เราจะต้องเรียนรู้อย่างแรกเลยก็คือตัวละครเหล่านี้จะมีค่าสเตตัสที่ติดตัวไม่เหมือนกัน รวมไปถึงสกิลติดตัว 1 สกิลและสกิลเพื่อใช้งานคนละ 2 สกิลด้วยกัน ถ้าเราเลือกใช้งานสกิลอย่างเหมาะสมจะทำให้เกมเพลย์สนุกมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ ในด้านของอาวุธก็เช่นเดียวกันแต่ละตัวละครจะมีอาวุธ 2 ชนิด ชนิดแรกคืออาวุธประจำตัวส่วนใหญ่จะเป็นปืนพกที่มีกระสุนให้ใช้ไม่จำกัด แต่เมื่อต้องรีโหลดกระสุนจะกินเวลาเล็กน้อยทำให้เราอาจจะถูกสังหารได้ ถ้าเราเลือกใช้อย่างถูกวิธีมันจะเป็นอาวุธที่ทรงพลังและสังหารศัตรูได้อย่างดีเลยค่ะ ชนิดต่อมาคืออาวุธประจำกายที่จะมีความรุนแรงและมีกระสุนจำกัด เหมาะเอาไว้ใช้กระหน่ำโจมตีศัตรูเมื่ออยู่ในร่างของมนุษย์ได้ดี ทั้งนี้เราจะหากระสุนเพิ่มเติมได้ต่อเมื่อเก็บกล่องกระสุนที่กระจัดกระจายตามพื้นที่ต่างๆ ภายในฉากเท่านั้นค่ะ  นอกจากนี้ยังมีอาวุธพิเศษที่จะมีให้เราได้เก็บตามจุดต่างๆ มันจะมีพลังทำลายล้างที่สูงมาก แต่จะสามารถใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ผู้เล่นจะต้องเลือกใช้งานให้ถูกจังหวะก็จะปิดจ๊อบศัตรูได้ ในช่วง Closed Beta จะมีอาวุธพิเศษให้เลือกใช้ทั้ง ปืนยิงจรวด Rocket Launcher, ปืนยิงระเบิด Grenade Launcher ที่จะสุ่มกระสุนชนิดต่างๆ และปืนยิงกระสุนไฟฟ้า Spark Shot ซึ่งพวกปืนพิเศษเหล่านี้จะมีอนุภาพทำลายล้างที่สูงมากๆ สามารถนำไปปิดเกมกับผู้เล่นที่กลายร่างเป็นอาวุธชีวภาพได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ เมื่อเราเลือกตัวละครแล้วเข้าไปอยู่ภายในเกม ถ้าเราถูกฆ่าหรือฆ่าผู้เล่นคนอื่น ผู้เล่นคนนั้นจะได้รับโอกาสที่ 2 ด้วยการกลายร่างเป็น “อาวุธชีวภาพ” ชนิดต่างๆ ต้องบอกก่อนว่าภายในเกมจะมีไอเทมที่เรียกว่า “หลอดไวรัส” ที่สีม่วงเด่นชัด แนะนำว่าให้พยายามเก็บเอาไว้ติดตัวจะดีมากค่ะ สามารถเก็บสะสมได้สูงสุด 2 หลอดพร้อมกัน ไอเทมชนิดนี้จะทำให้เราสามารถสุ่มกลายเป็นอาวุธชีวภาพระดับสูงได้ แต่ถ้าเราไม่ได้เก็บเอาไว้เลยจะกลายเป็นเพียงแค่มอนสเตอร์ระดับล่างที่มีชื่อว่า “Fat Molded” มอนสเตอร์จาก Resident Evil 7 โดยรายละเอียดการกลายร่างเป็นอาวุธชีวภาพมีดังต่อไปนี้ค่ะ Hunter γ จากภาค Resident Evil 3 Remake กับ Jack Baker จากภาค Resident Evil 7 จะสุ่มการกลายร่างเมื่อผู้เล่นเก็บหลอดไวรัสติดตัวเอาไว้ 1 หลอด Nemesis จากภาค Resident Evil 3 Remake กับ Super Tyrant Resident Evil 2 Remake จะสุ่มการกลายร่างเมื่อผู้เล่นเก็บหลอดไวรัสติดตัวเอาไว้ 2 หลอด เช่นเดียวกับตัวละครมนุษย์ อาวุธชีวภาพแต่ละตัวจะมีค่าสเตตัสติดตัวที่ไม่เหมือนกัน และสกิลโจมตีที่ให้มาตัวละ 2 สกิล ในการฝึกเล่นเป็นตัวละครอาวุธชีวภาพอาจจะดูยุ่งยากสักหน่อย แต่ถ้าเล่นแล้วฝึกดีๆ มันจะกลายเป็นตัวละครที่ทำให้เราสามารถสังหารศัตรูฝ่ายตรงข้ามแล้วเก็บคะแนนได้มากกว่าตอนเราเล่นเป็นฝ่ายมนุษย์เสียอีกค่ะ ส่วนตัวแล้วเกวลินมองว่า “ตัวละครอาวุธชีวภาพยังจะต้องปรับสมดุลอีกสักหน่อย” เพราะบางตัวก็รู้สึกว่ามีพลังที่ดู OP เกินไปอยู่ แต่สุดท้ายมันก็อยู่ที่ว่าเราฝึกฝนการใช้งานของตัวละครนั้นๆ ได้มากน้อยแค่ไหน ต่อให้เป็น Fat Molded มอนสเตอร์ระดับล่างก็สามารถสังหารผู้เล่นหรือมอนสเตอร์ที่เก่งๆ ได้เหมือนกัน โดยรวมแล้วตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” จากความรู้สึกที่เกวลินเล่นมาเกมเพลย์ของเกมนี้สนุกใช้ได้มาก ๆ เลยค่ะ ถ้าเทียบกับเกม Resident Evil Resistance ที่เป็นการต่อสู้ในรูปแบบ 4 Vs. 1 เอาจริงๆ มันก็สนุก...แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่างทำให้เมื่อเล่นไปนานๆ กลับรู้สึกเบื่อได้ ตรงกันข้ามกับเกม Resident Evil Re:Verse ถ้าคุณเป็นคนชอบเกมแนว Action Shooting เกมนี้ดูจะเหมาะกับเพื่อนๆ มากที่สุดค่ะ เพราะเงื่อนไขในการเล่นไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายเพียงแค่เราสามารถไต่ลำดับคะแนนจากการสังหารให้มากที่สุดเพื่อเป็นผู้ชนะ  ส่วนในเรื่องกราฟฟิกภายในเกมจะมีให้ปรับในโหมดการ์ตูนที่เราจะเห็นรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น และ โหมดปกติที่จะเหมือนกับเราเล่นเกมนี้เลย มืด ๆ มองอะไรไม่ค่อยเห็นชัดเท่าไหร่ แนะนำว่าถ้าจะเล่นเกมนี้เลือกใช้โหมดการ์ตูนจะดีกว่าค่ะ เพราะเราจะได้เห็นว่าศัตรูอยู่ตรงไหนชัดเจนมาก ที่สำคัญตัวเกม Resident Evil Re:Verse รองรับภาษาไทยเต็มรูปแบบเหมือนกับตัวเกมหลักอย่าง Resident Evil Village อีกด้วยค่ะ! แต่ก็น่าเสียดายที่ทาง Capcom เลือกใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ที่จะขึ้นอยู่กับ Host เป็นหลัก ทำให้เราถ้าไปเจอผู้เล่นที่อยู่ประเทศที่ไกลจากเรามันก็ส่งผลต่อการเล่นเป็นอย่างมากเลย คือเห็นได้ชัดเลยว่าโจมตีโดนเต็มๆ แต่ไม่ตาย หรือ การวาร์ปอันเป็นผลการอาการแล๊ค สิ่งเหล่านี้คือปัญหาของการใช้ระบบเซิร์ฟเวอร์ที่ทาง Capcom เลือก ก็ได้แต่ลุ้นและหวังว่าเมื่อตัวเกมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ การเชื่อมต่อของระบบเซิร์ฟเวอร์จะมีความเสถียรมากกว่านี้นะ ไม่งั้นมันก็จะกลายเป็นปัญหาเดิมๆ แล้วคนก็จะเลิกเล่นเกมนี้ไปแม้ว่าเกมมันจะดีแค่ไหนก็ตาม ตัวเกม “Resident Evil Re:Verse” จะแถมให้กับผู้เล่นที่ซื้อเกม Resident Evil Village เท่านั้น โดยตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 7 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ทั้งแพลตฟอร์ม PC, PlayStation 4, PlayStation 5, Xbox One และ Xbox Series X/S ถึงตอนนั้นอย่าลืมมาเล่นด้วยกันนะคะ เกวลินตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะซื้อเอาไว้เล่นบนเครื่อง PlayStation 5 เพราะคาดว่าคนน่าจะเล่นกันเยอะมากกว่า ตัวเกมสนนราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,829 บาทสำหรับ PC [Steam] และ 1,822 บาท สำหรับ PlayStation 5 ค่ะ ใครสะดวกแพลตฟอร์มไหนก็จัดมาเก็บไว้ก่อนก็ได้นะคะ แล้วเจอกันใหม่กับบทความหน้าของเกวลินนะคะ สวัสดีค่ะ!  
10 Feb 2021
ฆ่า Brand เพื่อ RE Brand: กรณีศึกษาทิศทางที่เปลี่ยนไปของซีรีส์ Resident Evil
หมายเหตุ : บทความชิ้นนี้ ผู้เขียน เขียนโดยใช้ข้อมูลอ้างอิงของ Resident Evil ภาคแกนหลัก โดยไม่ได้แตะไปที่ภาคปลีกย่อย แต่ขอให้เป็นที่รับรู้และเข้าใจโดยทั่วกันว่า กระบวนการที่ Capcom ได้ทำกับซีรีส์นั้น เกิดขึ้นในภาพกว้าง โดยไม่ได้จำกัดอยู่ที่ภาคใดภาคหนึ่ง หรือสื่อใดสื่อหนึ่งเป็นการเฉพาะ หมายเหตุ 2 : ในขณะที่ผู้เขียนเขียนงานชิ้นนี้ ก็เป็นช่วงเวลาดียวกับที่คุณ Jeanette Maus ผู้ให้เสียงและ Mo-Cap ‘ลูกสาวแวมไพร์’ ใน Resident Evil : VILLAGE ได้เสียชีวิตด้วยมะเร็งลำไส้ ในวัย 39 ปี ผู้เขียนขอแสดงความอาลัยต่อการจากไป และขอให้วิญญาณของเธอไปสู่ภพภูมิที่ดี เนื่องด้วยเธอได้ดำรงความเป็นอมตะในบทบาทอันสุดยอดเป็นที่จดจำได้ในทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่เปิดตัว บนชิ้นงานที่จะสืบทอดต่อไปอีกนานเท่านาน และในขณะนี้ ทางครอบครัว Maus ยังเปิดรับเงินบริจาคสมทบทุนเพื่อช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ลำบาก ซึ่งคุณสามารถร่วมบริจาคได้ ที่นี่ *********************************************************************************************************** ย้อนเวลากลับไปที่ปี 1998 หรือเมื่อประมาณ เกือบยี่สิบสามปีที่แล้ว ในช่วงเวลาที่เครื่อง Playstation รุ่นแรกยังคงเฟื่องฟู ผู้เขียนยังเป็นเพียงเด็กชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ก็เป็นคนหนึ่งที่ได้มีโอกาสสัมผัสกับประสบการณ์การเล่นเกมบนระบบดังกล่าวเช่นเดียวกับเพื่อนๆ ร่วมรุ่นทั่วไป และเป็นเวลาเดียวกับที่ซีรีส์ ‘Resident Evil’ เกมผจญภัยสยองขวัญชื่อดังของ Capcom กำลังติดลมบน จากความสำเร็จของภาคแรก และตีเหล็กกำลังร้อนของภาคที่สอง ที่แทบจะเรียกว่าร้านเกมทุกแห่งจะต้องมี และแข่งกันเล่นกับเพื่อนฝูงว่าใครจะสามารถเล่นได้เร็วที่สุด เก่งที่สุด ปลดล็อคความลับที่ซ่อนอยู่ได้มากที่สุดกว่ากัน ในยุคที่ยังไม่มีประดิษฐกรรมที่เรียกว่า ‘Achievements’ นั้น นับเป็นความท้าทายที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองและเสียงเชียร์จากเพื่อนเป็นรางวัลล้วนๆ ไม่มีเป็นอื่นใด เห็นแบบนี้ แต่นี่สุดยอดกราฟิกระดับ Next-Gen ของปี 1998 ที่ทุกคนต้องสัมผัส สำหรับ Resident Evil 2 และด้วยความนิยมอันมหาศาลของ Resident Evil 2 นี้เอง ที่ผู้เขียนได้มีโอกาสได้ ‘อ่าน’ หนังสือการ์ตูนแบบ Pirate หรือแบบพิมพ์อย่างไม่ถูกลิขสิทธิ์ ที่เอาผลงานเขียนโดยนักเขียนสายไต้หวัน (ในชื่อ Manhua [生化危機]) ที่เอาความเป็นซีรีส์ RE มาเป็นกรอบ เคลือบความเป็นการ์ตูนกำลังภายใน และเนื้อหาข้างในก็ถูกยำใส่สีตีไข่จนมั่วและแทบไม่เหลือเค้าเดิม ผู้เขียนได้แต่นั่งอ่านไปและถอนใจ ทั้งในความบรรเจิดของคนเขียน ความพยายามที่จะทำมาหากิน และความ ‘เพ้อเจ้อ’ ของการ์ตูนกำลังภายใน ที่ดูเหมือนจะหยิบจับอะไรก็ได้ มาบิดดัดให้กลายร่างเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะสามารถไปในแนวทางเหล่านั้น ให้กลายเป็นการปล่อยพลังวรยุทธ์ขั้นที่สาม สี่ และห้า ได้อย่างเข้าใจจะหาทำ... Leon ผู้สำเร็จเคล็ดวิชา G-Virus ขั้นที่ห้า ..... ก็คงมีแต่การ์ตูนจอมยุทธ์สายไต้หวันนี่ล่ะ ที่กล้าและบ้าพอจะหาทำ... แต่มาในวันนี้ ยี่สิบกว่าปีผ่านไป … กับซีรีส์ Resident Evil ที่เดินทางออกห่างจากภาค 2 มาไกลจนถึงภาค 7 และภาค VILLAGE ที่กำลังจะวางจำหน่าย แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะไม่เท่ากับการที่ Leon ได้เคยเป็นยอดจอมยุทธ์แห่ง G-Virus ในหนังสือการ์ตูน แต่การได้เห็น Leon กลายเป็นสุดยอดสายลับ (และนักทำลายล้างยานยนต์ทุกชนิดที่ขับขี่…), Chris Redfield ต่อยหินลาวา, Jill Valentine เป็นสุดยอดอาวุธชีวภาพเดินได้, Albert Wesker กลายเป็นสุดยอดมนุษย์กลายพันธุ์ และการผจญภัยของ Ethan Winters ที่ต่อมือขาดด้วยไวรัสได้ง่ายเหมือนหยอดยาแดงเบตาดีน (และแน่นอน… ได้เห็น Joe Baker ต่อยเหล่า ‘Molded’ ตัวขาดด้วยหมัดเปล่าใน End of Zoe ภาคเสริมของ Resident Evil 7…) วินาทีที่ Chris Redfield ผลักหินลาวา ความเป็น Resident Evil ก็แบบดั้งเดิมก็จากลาในความรู้สึกของผู้เขียนไปเรียบร้อยแล้ว... ทั้งหมดนี้ ทำให้ผู้เขียนเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า นักเขียนการ์ตูนไต้หวันเหล่านั้น มีญาณทิพย์เห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้ล่วงหน้าเป็นสิบกว่าปีหรือไม่ เพราะแม้จะไม่ได้เวอร์วังในสเกลเดียวกัน แต่ถ้าเทียบกับต้นกำเนิดหลักแล้ว ก็ต้องบอกว่าซีรีส์ RE นั้น ‘มาไกล’ จนเกือบเข้าข่าย ‘เพ้อเจ้อ’ อยู่ไม่น้อย และยิ่งหนักข้อขึ้นไปอีกขั้น เมื่อมันกลายเป็นหนังอย่าง Texas Chainsaw Massacre หรือ The Hills have Eyes ในธีมตระกูล Baker ของภาค 7.... แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะถ้ามองในแง่มุมการตลาดแล้ว เราจะพบว่า มันเป็น ‘กระบวนการ’ ที่ผ่านการคิดและการสร้างมาอย่างเป็นระบบ ด้วยความตั้งใจ และการใช้เวลา และเป็นการ ‘รีแบรนด์’ แบบเล่นใหญ่ในตลอดยี่สิบห้าปีในประวัติศาสตร์ของซีรีส์ที่ผ่านมา ถูกสะสม ลองผิดลองถูก และผ่านการ ‘ถูกฆ่า’ เพื่อหาสูตรสำเร็จในแต่ละช่วงเวลามาอย่างห้าวหาญมานับไม่ถ้วน ซึ่งน้อยซีรีส์นักที่จะมีความกล้าในการลงมือทำในสิ่งเหล่านี้ จนนี่ น่าจะเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย อะไรคือการ ‘รีแบรนด์’ หลายคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า ‘รีแบรนด์’ มาบ้างจากวิชาทางด้านการตลาดและเศรษฐศาสตร์ ถ้ากล่าวโดยสรุปนั้นคือ มันเป็นกลยุทธ์ที่สินค้าและบริการหนึ่งๆ ใช้ ในการปรับ ‘ภาพลักษณ์’ เพื่อเข้าถึงความต้องการและการจดจำของลูกค้า โดยมีเหตุผลและความจำเป็นสำหรับการ ‘รีแบรนด์’ ที่สามารถสรุปได้คร่าวๆ ดังต่อไปนี้ -กลุ่มเป้าหมายของแบรนด์นั้นๆ มีความเปลี่ยนแปลงไป -มีความต้องการที่จะขยายตลาดให้หลากหลาย และกว้างขวางมากขึ้น -มีสัญญาณของการ Disrupt หรือการเข้ามาของสิ่งใหม่ ที่จะทำให้รูปแบบการทำธุรกิจหรือสินค้าเดิมล้าสมัย -สัญญาณของการไม่ปรับตัวจะทำให้แบรนด์กลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ถูกลืม ที่ยกตัวอย่างไปข้างต้น ไปเป็นเพียงเหตุ ‘คร่าวๆ’ เพราะปัจจัยในการรีแบรนด์นั้นยังมีอีกมาก (และผู้เขียนก็คงไม่ขอยกมาทั้งหมด ไม่เช่นนั้นบทความนี้อาจจะกลายเป็นตำรา Marketing 101 ไปเสียก่อน…) แต่เชื่อหรือไม่ว่า การรีแบรนด์นั้น เกิดขึ้นมาโดยตลอด และไม่เฉพาะกับแบรนด์ขนาดเล็กหรือขนาดกลาง แต่กับแบรนด์ขนาดใหญ่นั้น กลับเป็นหน่วยงานหรือองค์กรที่ผ่านขั้นตอนการ ‘รีแบรนด์’ อย่างหนักหน่วงมากที่สุด เช่น แบรนด์ Starbucks, Marvel Studios หรือของไทยอย่าง Bar-B-Q Plaza ที่ปรับภาพลักษณ์ขององค์กรอายุ 30 ปีให้สดใส จนคนคุ้นเคยกับ พี่ก้อน หรือ บาร์บีกอน กันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม การ รีแบรนด์ นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้สุ่มสี่สุ่มห้า เพราะภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไป มีผลต่อความเชื่อใจของผู้บริโภคอย่างสูง ถ้าทำอย่างไม่ระวัง ผลเสียที่เกิดขึ้นจะร้ายแรงกว่าการไม่ทำอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ นั่นทำให้การ รีแบรนด์ คือมาตรการสุดท้าย ในสภาวะที่แบรนด์ส่อเค้าว่าจะวิกฤติ ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปข้างต้นนั่นเอง ใครๆ ก็รักพี่ก้อน และพี่ก้อน ก็คือผลลัพธ์จากการ รีแบรนด์ ครั้งสำคัญของ Bar-B-Q Plaza ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด จำเป็นแค่ไหนที่ Resident Evil จะต้อง ‘รีแบรนด์’? อันที่จริง ในช่วงเวลาที่เป็นขาขึ้นที่สุดของซีรีส์ Resident Evil อย่างภาคสองนั้น มันแทบจะเป็นจุดที่ทาง Capcom เองไม่ต้องกังวลใดๆ กับการดำรงอยู่ของแบรนด์นี้ในสายการผลิตของตัวเองด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองในระยะยาวแล้ว เราจะพบว่า มันมีข้อจำกัดหลายอย่าง ที่จะนำซีรีส์นี้ไปสู่ ‘ทางตัน’ ได้ หากผู้พัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวิสัยทัศน์ของ Shinji Mikami ผู้เป็นโปรดิวเซอร์หลักของซีรีส์ได้มองเอาไว้ ไม่ลงมือทำอะไรสักอย่างเสียแต่เนิ่นๆ -ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี : การเล่นในแบบมุมกล้อง CCTV Camera นั้น เป็นรูปแบบเก่าที่เกิดจากข้อจำกัดในการแสดงผล ซึ่งมันจะล้าสมัยไปในไม่ช้า -พื้นหลังเรื่องราว : วิกฤติซอมบี้ระบาดในพื้นที่จำกัด กับศัตรูรูปแบบเดิมเช่นนี้ จะเล่นได้อีกนานแค่ไหน? -การพัฒนาตัวละคร: บรรดาตัวละครทั้งหลายที่อยู่ในเนื้อหา จะสามารถเติบโตในทิศทางใด หากยังถูกจำกัดอยู่แต่ในกรอบเขตกีดกั้นของวิกฤติซอมบี้ระบาด? Resident Evil : Code: Veronica น่าจะเป็นจุด ถึงที่สุด ที่ Capcom ได้เห็นว่า แนวทางแบบดั้งเดิม ควรจะต้องหยุด และเริ่ม Disrupt ตัวเองได้เสียที เอาเพียงแค่สามข้อ มันก็ดูจะเพียงพอแล้วที่เราจะเห็นว่า ปลายทางของ Resident Evil ในแบบ ‘ดั้งเดิม’ นั้น ไม่อาจฝ่าคลื่นนาวาของความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่จะถาโถมเข้ามาได้ (และดูเหมือนว่าจะยิ่งชัดเจนที่สุดกับภาค Code Veronica ที่น่าจะถึงที่สุดของการนำเสนอและการเล่นใน ‘แบบเก่า’ ไปแล้ว) นอกไปเสียจากทางตัน และยิ่งโดยตัวของ Shinji Mikami เองที่ได้มีโอกาสไปกำกับเกมอื่นๆ ของค่าย เขาก็ยิ่งเห็นโอกาสและความเป็นไปได้ที่จะผลักดันให้ซีรีส์ Resident Evil ‘ไปได้ไกล’ มากกว่าที่เป็น และเป็นเหตุผลที่เขาเริ่มทำ ‘Resident Evil 4’ และโลกของ RE ก็ไม่เคยเหมือนเดิมอีกต่อไป …. ’ฆ่า Brand’ เพื่อ ‘RE : แบรนด์’ เป็นที่แน่นอนแล้วว่ากระบวนการ ‘รีแบรนด์’ นั้น คือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นแน่นอนในฐานคิดของทีม Capcom ถ้าพวกเขาอยากจะก้าวต่อไปกับซีรีส์นี้ แต่กระนั้น ด้วยความที่ Resident Evil คือหนึ่งในเกมระดับแม่เหล็กของค่าย การเปลี่ยนแปลงใดๆ อย่างฉุกละหุก และโดยปัจจุบันทันด่วนนั้น อาจจะก่อให้เกิดผลเสียที่จะตามมา และนั่น ทำให้เกิดเป็นแผน ‘ระยะยาว’ ที่ไม่ว่าพวกเขาจะตั้งใจหรือไม่ แต่พวกเขาก็ได้ดำเนินการ ‘ฆ่า’ สามเสาหลักที่สำคัญของแบรนด์ RE และดัดแปลงมันเพื่อขยายขอบเขตความเป็นไปได้ใหม่ๆ ให้กับซีรีส์อย่างเป็นระบบ ที่เรา ในฐานะผู้เล่น อาจจะรู้สึกว่า พวกเขากำลังเล่นบ้าอะไรอยู่ แต่เชื่อเถอะว่า นี่เป็นขั้นตอนที่ผ่านการคิดมาเป็นอย่างดีแล้ว เมื่อมองในภาพกว้าง แล้วพวกเขาได้ ‘ฆ่า’ อะไรไปบ้าง? 1.ฆ่า ‘บทบาทตัวละคร’ นี่เป็นจุดที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ง่ายที่สุดที่สามารถทำได้ เพราะบรรดาตัวละครทั้งหลาย ย่อมมีพัฒนาการและการเติบโตตามระยะเวลา การจะยังคงรูปแบบ แนวคิด และลักษณะดั้งเดิมเอาไว้ จะทำให้มันกลายเป็นตัวละครที่มีมิติที่แบนราบ ไม่น่าสนใจ และดูเหมือนว่าทีม Capcom เองก็เห็นด้วย และ ‘ไปสุดทาง’ อยู่ไม่น้อย เพราะการที่เหล่าตัวละครจากคนธรรมดา ที่อาจจะเป็นเพียง ‘ผู้พยายามรอดชีวิต’ จากวิกฤติไวรัสซอมบี้ระบาด จนกลายมาเป็นสุดยอดโคตรคนที่ต่อกรกับทุกอุปสรรคได้อย่างเหนือมนุษย์นั้น ก็ออกจะพิสดารอภินิหารไปบ้าง แต่ในเมื่อมันเป็นตัวละครของ ‘พวกเขา’ แล้ว พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะยำมันได้ในขอบเขตที่ยังไม่ล้ำเส้นความเป็นไปได้จนเกินไป ซึ่งนั่นจะตามมาด้วยการ ‘ฆ่า’ ในข้อที่สอง 2.ฆ่า ‘พื้นหลังเรื่องราว’ จากจุดเริ่มต้นเรื่องราวที่ Spencer Mansion นอกเขตเมือง Raccoon City ใน Resident Evil ภาคแรก มาสู่การเดินทางเพื่อต่อสู้กับการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพของอดีตบริษัท Umbrella ที่ล่มสลาย และกระจายเข้าสู่ตลาดมืด จากวิกฤติไวรัสล้างเมือง สู่การใช้อาวุธชีวภาพตามพื้นที่ต่างๆ ก่อจนเกิดเป็นลัทธิวิปริตอย่าง Los Illuminados หรือบ้านตระกูล Baker ที่เหมือนหลุดมาจากหนัง Texas Chainsaw Massacre จากหน่วยสืบพิเศษ S.T.A.R.S. แห่งกรมตำรวจ Raccoon City สู่หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย Bioterrorism Security Assessment Alliance (BSAA) เหล่านี้ คือการเปลี่ยนพื้นหลังเรื่องราวหรือ Narrative เพื่อสอดรับกับการเติบโตและความเป็นไปของบรรดาตัวละครที่มีบทบาทที่แตกต่างออกไปจากเดิมของซีรีส์ Resident Evil นั่นเพราะถ้าหากยังคงบทบาทเก่า แนวคิดเก่า และ ‘ความสามารถ’ แบบเก่า มันเป็นที่แน่นอนแล้วว่าพวกเขาคงไม่สามารถรับมือกับวิกฤติการผีบ้าทั้งหลายที่ยกสเกลความพินาศขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัวได้ Ada Wong คือตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ในด้านความ เหนือมนุษย์ ที่เปลี่ยนจาก Corporate Agent ธรรมดา ให้กลายเป็นโคตรสายลับสาวระดับพระกาฬที่เราคงไม่ต้องถามเรื่องความเวอร์วังอะไรจากเธออีก... และก็อีกเช่นเคย Capcom สนุกกับการเชือด Settings เก่าทิ้งอย่างเป็นระบบ ค่อยๆ สอดไส้ความเหนือมนุษย์ลงไปทีละหยดๆ จนมาถึงตอนนี้ เราคงไม่ค่อยแปลกใจกันนัก ถ้าหากจะเห็น Leon S. Kenedy เป็นยอดสายลับขับขี่ยานพาหนะเป็นพัง และเห็น Chris Redfield กลายเป็นโคตรทหารต่อยซอมบี้หัวขาดและฟาดหินลาวาด้วยหมัดเปล่า และเหล่าซอมบี้ง่อยๆ ก็กลายเป็นเหล่าสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และอีกหลายอันที่หลุดมาจากนรกขุมที่เท่าไรก็ไม่อยากจะนับ ก็เพราะพวกเขา ‘ชง’ ให้มันมาทางนี้ซะแล้ว ซึ่งการ ‘ตบ’ และ ‘ดื่ม’ ก็จะเกี่ยวข้องกับการ ‘ฆ่า’ ปัจจัยสุดท้าย 3.ฆ่า ‘เกมการเล่น’ นี่เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ผู้เขียนขอยกมาไว้ตอนท้าย เพราะดังที่กล่าวไปข้างต้น เกมการเล่นดั้งเดิมของ Resident Evil ในแบบแรกเริ่ม ที่กำหนดมุมกล้องแบบ CCTV นั้น เกิดขึ้นจากความจำเป็นในข้อจำกัดของเทคโนโลยี และเป็นสิ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเกมผจญภัยสยองขวัญโคตรปู่ผีอย่าง Alone in the Dark (ที่ตอนนี้ตายซากกลายเป็นเป็นผีไม่มีที่ฝังและถูกลืมหายไปจากความทรงจำแล้วอย่างน่าเศร้า…) แต่เมื่อเทคโนโลยีในการนำเสนอเปลี่ยนแปลงไป เมื่อความเป็นไปได้ใหม่ๆ ได้เดินทางเข้ามา ทีมพัฒนาของ Capcom ก็รู้แล้วว่า การ ‘Disrupt’ ครั้งใหญ่กำลังจะมาถึง และถ้าพวกเขาไม่ขยับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลง ซีรีส์ RE ก็อาจจะกลายเป็นผีตามรุ่นพี่อย่าง Alone in the Dark ไปอีกเกม พวกเขานำร่องด้วยเกมอย่าง Resident Evil 4 ที่กลายมาเป็นเกม 3rd Person Shooter บนระบบ Gamecube ก่อนจะดำเนินตามแนวทางนี้มาจนถึงภาคที่ 6 และอย่ามองว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ธรรมดาสามัญ เพราะการเปลี่ยน Genre หรือประเภทแนวเกม นั่นหมายถึงผู้พัฒนาเกม จะต้องสร้างเกมบนฐานคิด มุมมอง และทัศนคติด้วยแนวทางใหม่ เพราะเกมแต่ละประเภทก็มีจังหวะ มีลูกล่อลูกชน และมีรูปแบบในการนำเสนอความน่าสนใจที่แตกต่างกัน มี Pace ที่แตกต่างกัน แน่นอน Resident Evil ในแบบออริจินัลดั้งเดิม มุมกล้อง CCTV นั้นสามารถช้าได้ แต่เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเป็น 3rd Person Shooter แล้ว รูปแบบการเล่น การวางศัตรู การแก้ปริศนา และการสร้างความท้าทายก็จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นในทันที และเป็นไปในแบบที่เกมแนวเดิมไม่สามารถให้ได้ มันคือการ ฆ่า เกมแนวเก่า เพื่อโอบรับ แนวคิดใหม่" โดยแท้ และพวกเขาก็ใช้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่ถึงสามภาคเต็มๆ ตั้งแต่ภาค 4 จนถึงภาคที่ 6 ในแบบสุดทาง และพวกเขาก็ Disrupt ตัวเองอีกครั้งในภาค 7 ที่พวกเขา ‘ทดลอง’ นำเอาความเป็น First Person Shooter มาใส่ความสยองขวัญแบบ RE ดั้งเดิมลงไป ซึ่งก็ให้ผลตอบรับในทางที่ดีอยู่ไม่น้อย จนกลายมาเป็นภาค VILLAGE ที่กำลังจะวางจำหน่าย ที่คิดว่าความเป็น First Person Shooter กึ่งสยองขวัญ น่าจะยังอยู่กับซีรีส์ RE ไปอีกสักระยะหนึ่งอย่างแน่นอน อนึ่ง แม้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงในระดับ ‘หักศอก’ เกิดขึ้นในรอบ 25 ปีของซีรีส์ Resident Evil แต่ทีม Capcom ก็ไม่ได้ทิ้ง Core Value ของซีรีส์ ทั้งในเรื่องของการเป็นเกมสยองขวัญ, เอกลักษณ์ของจุดเซฟ, การบริหาร Inventory, การสืบทอด Entity หรือองค์กรอย่าง Umbrella ที่ดูจะเป็นปิศาจที่หลอกหลอนในเรื่องราวเกือบทุกภาค (แม้ว่าในเนื้อหาหลัก ตัวบริษัทจะล่มสลายไปแล้วก็ตาม…) เพราะสำหรับพวกเขา ทีมพัฒนาจาก Capcom ซีรีส์ Resident Evil ก็ยังคงเป็นเรื่องของการต่อสู้ระหว่าง ‘มนุษย์’ กับ ‘สิ่งเหนือธรรมชาติ’ ที่เกิดจากสิ่งที่ถูกสร้างโดยเทคโนโลยีในทางที่ผิด ส่วนผลลัพธ์ของการใช้เทคโนโลยีที่ว่านั้น จะออกมาในรูปแบบไหน คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่สำคัญอันใดอีกต่อไปแล้ว (โดยเฉพาะภาค VILLAGE ที่ดูจะยิ่งหลุดโลกหนักกว่าเดิม ที่คุณสามารถอ่านบทความสรุปเนื้อหาได้จาก ที่นี่) "และแน่นอน นั่นหมายรวมถึงขอบเขตที่ Resident Evil จะก้าวต่อไป ที่พวกเขาได้สลัดหลุดพ้น ‘กรอบกีดกั้น’ ของความเป็นเกมอาชีวิตรอดจากซอมบี้ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย…" จากวันแรกที่ Resident Evil ภาคแรกวางจำหน่ายในปี 1996 จนมาถึงปีนี้ 2021 ที่ภาค VILLAGE จะวางจำหน่าย จากวันที่ Tyrant กับมือกรงเล็บสร้างความสยองขวัญ สู่ Lady Dimitrescu สตรีสูงศักดิ์ร่างยักษ์กับลูกสาว ‘แวมไพร์’ ในปราสาทยุโรปตะวันออกคือภัยร้ายแรงระดับถึงตาย จากวันที่ Leon S. Kenedy ยังเป็นตำรวจหน้าใหม่ที่บังเอิญโชคดีมาถึงเมืองช้า สู่การเป็นสุดยอดสายลับที่ขับยานพาหนะเป็นต้องพัง และจากวันที่ Shinji Mikami ตัดสินใจสร้าง Resident Evil ให้กำเนิดขึ้นมาบนโลก จนถึงวันที่เขาวางมือและปล่อยให้ซีรีส์ดำเนินไปตามทางของมัน และยังคงอยู่ได้ แม้เขาไม่ได้กุมบังเหียนมันอีกต่อไปแล้วก็ตาม Lady Dimitrescu สตรีสูงศักดิ์ร่างยักษ์กับเหล่า ลูกสาวแวมไพร์ ตัวร้ายของภาค VIlLAGE ที่สร้างกระแสฮือฮาบนโลกอินเทอร์เนตอย่างไม่หยุดฉุดไม่อยู่ แน่นอน มันมีกาสร้างที่ผิดพลาด มันมีการ experiment หรือการทดลองแนวคิดที่ไม่ประสบผล (ไม่ว่าจะเป็นภาค Outbreak ที่แนวคิดดีแต่ติดที่ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี หรือภาค Umbrella Corps แนว Multiplayer Shooter ที่อย่าไปพูดถึงมันเลยจะดีกว่า…) บางการ ทดลอง ของ Capcom ก็ไม่ได้ประสบผลสำเร็จ เช่น Resident Evil : Umbrella Corps ที่สมควรถูกลืมไปซะจะดีกว่า ... แต่เราก็ต้องยอมรับว่า ซีรีส์ Resident Evil คือหนึ่งในตัวอย่างของการ ‘ปรับตัว’ หรือ ‘รีแบรนด์’ ที่กระทำอย่างต่อเนื่อง รับรู้ข้อจำกัดตัวเอง และรีบดำเนินการในทันทีโดยไม่ต้องรอให้ใครมากระตุ้นเตือนหรือทำให้รับรู้ว่าตัวเอง ‘ตกเทรนด์’ เพราะพวกเขาเป็นคน ‘กำหนดเทรนด์’ ที่เกมแนวสยองขวัญจะก้าวไปข้างหน้า ที่จะยืนยาวต่อไป และน่าลุ้นอยู่ไม่น้อย ว่าพวกเขาจะสร้างสิ่งใด ภายใต้ความเปลี่ยนผ่านของแวดวงวิดีโอเกมในเวลาที่จะมาถึง “เพราะลงว่าได้ ‘ฆ่าแบรนด์’ เพื่อเกิดใหม่มาแล้วอย่างชำนาญ มันจะไม่จบแค่ครั้งที่สอง สาม หรือสี่แน่นอน และนั่น คือวิถีทางที่สิ่งใหม่ๆ จะถือถือกำเนิดขึ้น ในวัฏจักรแห่งการเวียนว่ายตายเกิด และมันจะเป็นเช่นนั้น…เสมอ”
10 Feb 2021
สรุป 9 เนื้อหาสำคัญของ The Resident Evil Village Showcase
หลังจากที่ทาง Capcom ได้ทำการสตรีม The Resident Evil Village Showcase เพื่อเปิดเผยข้อมูลและเนื้อหาสำคัญหลายๆ อย่าง ซึ่งบอกได้ว่าอีเวนท์นี้ได้สร้างกระแสและเสียงฮือฮาในหมู่แฟนๆ และนักวิจารณ์อยู่พักหนึ่งเลย แต่เชื่อว่ายังมีหลายๆ คนอาจจะไม่เข้าใจข้อมูลบางส่วน หรือพลาดจุดสำคัญบางจุดไป ดังนั้นในวันนี้พวกเรา GameFeverTH จะขอสรุปรายละเอียดและเนื้อหาสำคัญของ The Resident Evil Village Showcase มาให้ทุกคนได้เข้าใจกันถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย! 1.วันวางจำหน่าย ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ นั้นมีทั้งข่าวรั่วไหลและข่าวลือมากมายเกี่ยวกับเรื่องวันเปิดตัวของเกม Resident Evill Village บ้างก็ว่าเกมจะมาในช่วงเดือนเมษายนบ้าง ในช่วงกลางปีบ้าง แต่เราไม่ต้องสับสนแล้วว่าจะเชื่อใคร เพราะตอนนี้ทาง Official ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า " Resident Evill Village จะเปิดตัวในวันที่ 7 พฤษภาคม 2021 " !! นอกจากนี้ช่วง The Resident Evil Village Showcase ก็ยังได้ประกาศข้อมูลสำคัญอื่นๆ อีกด้วย แต่จะคืออะไรบ้างนั้นไปดูในหัวข้อต่อๆ ไปได้เลย. 2.มีให้เลือกระหว่าง Deluxe Edition และ Collectors Edition การสั่งจองล้วงหน้าและการสั่งซื้อนั้น ทาง Capcom ได้เปิดตัวเกม Resident Evill Village ให้เราได้เลือกกัน 2 แบบ ดังนี้ Deluxe Edition: Trauma Pack รุ่นที่จะมาพร้อมไอเท็มต่างๆ จาก Resident Evil 7: Biohazard เช่น Mr. Everywhere Bobblehead / เพลง Safe Room ( เพลงนี้ผมชอบมากมันทั้งติดหู หลอน และระทึกในเวลาเดียวกัน ) / เครื่องบันทึกเกม และอื่นๆ สามารถดูได้ในภาพประกอบ Collectors Edition รุ่นที่จะมาให้ทุกสิ่งจาก Deluxe Edition และมีสิ่งอื่นๆ เพิ่มมาได้แก่ โมเดล Chris Redfield / Steelbook / Artbook และอีกมากมายในภาพประกอบ รางวัลพิเศษสำหรับผู้ที่สั่งซื้อล่วงหน้านั้นได้แก่ Mr.Raccoon Weapon Charm / อุปกรณ์ไอเทมช่วยชีวิต Survival Resource Pack 3.เกม Demo ที่เป็น Exculsive บน PS5 ในช่วง The Resident Evil Village Showcase ทาง Capcom ได้แสดงตัวอย่างเกมรวมถึงได้แสดงศักยภาพของเอนจิ้น / ภาพกราฟฟิคมากมาย และมีเกมฉบับ Demo ในชื่อ " Maiden " ที่ผู้เล่นจะสามารถลองไปโหลดเล่นกันได้ฟรี! แต่เล่นได้เฉพาะผู้ที่มี PS5 เท่านั้นนะครับ555 ซึ่งในเกมฉบับ Demo นั้นเราจะได้เห็นถึงเรื่องราวของหญิงปริศนาผู้กำลังหาทางเอาตัวรอดจากคุกใต้ดินที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด และไปโผล่ในตัวปราสาทที่สวยตระการตา แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงได้ด้วยบรรยากาศที่อึดอัด ทำให้รู้สึกหวั่นๆ ขนลุกไปด้วยในเวลาเดียวกัน สำหรับเกมเพลย์คร่าวๆ ของเกมฉบับ Demo นั้นผู้เล่นจะทำได้แค่เพียงเดิน วิ่ง ก้ม ไขปริศนาเพื่อหาทางเอาตัวรอดออกจากปราสาทสยองขวัญนี้! ( ใน Demo เราจะไม่สามารถต่อสู้ใดๆ ได้เพราะทีมงานอยากนำเสนอเรื่องศักยภาพด้านกราฟฟิกและเกมเพลย์นิดๆ หน่อยๆ เท่านั้นครับ ) *ในช่วงนี้ยูทูปเบอร์ชาวไทยก็เริ่มนำเกมฉบับ Demo มาเล่นกันแล้ว อย่างผมก็ได้ไปดูพี่เอก HRK เล่นมาและเปิดดูแบบ 4K บอกเลยว่าภาพในเกมโค-ตะ-ระ-สวยยยย! เสียงเพลงและซาวด์ประกอบก็เข้ากับบรรยากาศและช่วงเวลานั้นๆ มาก บอกเลยว่ารอเกมเต็มแทบไม่ไหวแล้ว! 4.ไม่ทิ้งเครื่องเจ็นเก่าอย่าง PS4 และ Xbox One! ในช่วงแรกๆ นั้นมีข่าวลือมากมายที่บอกว่าทาง Capcom จะเปิดวางจำหน่ายบนเครื่องคอนโซลเจ็นใหม่อย่าง PS5 และ Xbox Series X เท่านั้น แต่มันไม่ใช่แบบนั้น! เพราะล่าสุดทีมงานประกาศแล้วว่าพวกเขาจะวางจำหน่ายเกม Resident Evil Village บนเครื่อง PlayStation 4 / PlayStation 5 / Xbox Series X / S / Xbox One และ PC! นอกจากนี้ Capcom ยังใจดีประกาศอีกว่า ใครที่ซื้อไปเล่นบน PS4 จะได้รับการอัพเกรดข้ามเจ็นฟรีสำหรับกรณีที่ท่านซื้อเครื่อง PS5 อีกด้วย! Xbox ก็เช่นกันครับ! 5.รูปแบบการต่อสู้ที่เราทราบ ณ ตอนนี้! ในส่วนของเกมเพลย์นั้นเราอาจจะไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากนัก แต่กลิ่นอายที่รู้สึกหลังจากได้เห็นตัวอย่างและ Demo นั้นบอกเลยว่ามันรู้สึกว้าวจริงๆ ครับ เพราะตัวเกมนั้นยังคงในมุมมองบุคคลที่หนึ่งเช่นเดียวกับ Resident Evil 7: Biohazard แต่จะผสมความเป็น Action / Survival มากขึ้นเพราะทีมงานนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากภาคแรกๆ เช่นเดิมและในครั้งนี้ยังได้รับอิทธิพลมาจากภาค 4 ด้วย! ดังนั้นเราจะได้เห็นอีธานในภาคนี้ที่สามารถหลบหลีกและป้องกันการโจมตีของศัตรูต่างๆ ในเกมนี้ได้คล่องตัวขึ้น ไม่ได้เป็นอีธานผู้วิ่งหนีลุง โดยทุบ โดนฟาด โดนสับขาขาดเป็นฝ่ายถูกกระทำฝ่ายเดียวแล้ว555 นอกจากนี้ยังมีถังแดงถังน้ำมันที่ตั้งล่อตาล่อใจให้ผู้เล่นยิงมันเพื่อสร้างแรงระเบิดมหาศาลออกมาได้อีกด้วย บอกเลยว่าไม่ใช่แค่บรรยากาศที่ทำให้เรานึกถึงเกมภาคคลาสสิค แต่รวมถึงเกมเพลย์ด้วยเช่นกัน. 6.โหมด Multiplayer สำหรับ Resident Evil Resistance ที่เป็นโหมด Multiplayer ในครั้งก่อนของทาง Capcom นั้นอาจจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แต่ทางทีมงาน Capcom ก็ยังไม่ยอมแพ้เพราะในครั้งนี้ มันจะไม่ใช่ข่าวลือสำหรับเกม Mutiplayer ของจักรวาล RE อีกต่อไป เพราะในอีเวนท์นี้พวกเขาได้เปิดตัวเกม RE: Verse Multiplayer ที่ผู้เล่นสู้กันเองได้ด้วยการนำตัวละครที่เราชื่นชอบจากทุกๆ ภาคในจักรวาล RE มาห้ำหั่นกันเอง บนแผนที่ต่างๆ ที่อยู่ในแฟรนไชส์เกมนี้ บอกเลยว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในเกมที่ทำให้ผู้เล่นติดงอมแงมกันอยู่พักใหญ่แน่ๆ! 7.เป้าหมายของอีธาน นอกจากนี้ทาง Capcom ยังเปิดเผยให้เราหลายๆ คนหายสงสัยอีกด้วยว่าอีธานที่รอดจากเหตุการณ์นรกบนดินจากภาคที่แล้วนั้น จะเดินทางไปหมู่บ้านที่มีแต่ความตายอีกทำไม แต่เรื่องนี้จะเข้าใจได้ทันทีนั่นเพระว่าในครั้งนี้สาเหตุที่เขาจำเป็นต้องเดินทางไปยังหมู่บ้านและปราสาทต้องสาปนี้ ก็เพราะว่าได้มีใครบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างที่ไม่อาจเรียกว่าคน ทำการลักพาตัวลูกสาวของอีธานไป นี่จึงเป็นเป้าหมายหลักและแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้อีธานต้องออกโรงอีกครั้งหนึ่ง! แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ได้เจอครอบครัวตัวป่วนอีกแล้ว เขาจะเจออะไรที่น่ากลัวกว่า ดิบกว่าและยิ่งใหญ่กว่า ไม่ว่าจะเป็นแม่มด มนุษย์หมาป่า หรือสิ่งน่ากลัวอื่นๆ อดใจรอไม่ไหวที่จะเห็นเกมเต็มแล้วครับ! 8.การกระทำที่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ในอนาคต? จำได้ไหมผมเคยบอกว่าตัวเกมภาคนี้จะให้กลิ่นอายของความเป็น Resident Evill 4 ด้วย ดังนั้นมันจะมีจุดหนึ่งที่เราน่าจะจำได้นั่นคือ การกระทำอันเล็กน้อยที่จะส่งผลต่อเหตุการณ์ครั้งสำคัญ เช่น การให้ลีออนช่วยเหลือเจ้าหมาที่ติดกับดับอยู่ในหมู่บ้านช่วงต้นเกม โดยในฉากสู้กับบอสยักษ์นั้น มันจะออกมาช่อยผู้เล่นด้วย! ( ถ้าเราไม่ช่วยมัน หรือฆ่ามันทิ้ง มันจะไม่ปรากฏให้เห็นอีกเลย ) ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งสเนห์ที่กลับมาให้เห็นและยังมีในช่วงท้ายของการเล่น Resident Evil 7 เช่นกัน นั่นคือช่วงที่ผู้เล่นต้องตัดสินใจว่าจะช่วยเหลือใครในตอนท้ายในระหว่างสองตัวละคร ดังนั้น หวังว่า Resident Evil Village จะนำระบบนี้ใส่เข้ามาด้วยเพราะผมเองก็ชอบระบบนี้มาก! 9.พ่อค้าในตำนานจะกลับมา! เสื้อฮู้ด / สะพายกระเป๋า / หลังค่อม พูดเท่านี้ในจักรวาล RE หลายๆ คนคงจะนึกถึงพ่อค้าอาวุธในภาค Resident Evill 4 และแน่นอนว่าสำหรับ Resident Evil Village ก็จะมีพ่อค้าเช่นกัน แต่ในครั้งนี้พ่อค้าคนใหม่จะมาในร่างของชายผู้อวบอ้วนนามว่า The Duke แต่ในรอบนี้ไม่รู้ว่าเราจะเกรียนพ่อค้าด้วยการฆ่าได้อีกไหม ขอแนะนำว่าถ้าทำได้ก็อย่าหาทำนะครับ ถ้าไม่อยากให้เขาหายไปตลอดการเล่นเกมแบบใน Resident Evill 4 ฮ่าๆๆๆ Credit : TheGamer
27 Jan 2021
ลือ !! Resident Evil Village จะเป็นเกม Cross-Gen
ถ้าหากจะพูดถึงซีรี่ย์เกมด้านความสยองขวัญสุดสะพรึงคงจะเป็นเกมไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก Resident Evil ซึ่งช่วงนี้มีข่าวลือเกี่ยวกับ Resident Evil Village ออกมาเป็นอย่างมากมาย อีกหนึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้คือ ตัวเกมจะเป็น Cross-Gen ทั้งๆ ที่ทาง Capcom ประกาศว่าจะลงบนเครื่องคอนโซลในรุ่นถัดไป !! อย่างไรก็ตามข่าวลือดังกล่าวถูกปล่อยออกมาบนโลก Twitter จาก Dusk Golem ผู้ปล่อยข่าวลือที่มีความเม่นยำเกี่ยวกับ Resident Evil ได้แสดงความเห็นว่าเขายืนยันว่าตัวเกม Resident Evil Village ยังคงจะเป็นเกม cross-gen พร้อมเปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่าทาง Capcom จะออกมาให้ข้อมูลเรื่องดังกล่าวในเร็วๆ นี้ เนื่องจาก Resident Evil Village จะมีการโชว์รายละเอียดของตัวเกมครั้งใหญ่ในงาน TGS 2020 ช่วงปลายเดือน กันยายนนี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเราจะเห็นประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ในงานดังกล่าวครับ อย่างไรก็ตามนี้เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นเราคงต้องรอทาง Capcom ออกมายืนยันเรื่องนี้กันอีกครั้งค่ะ ตัวเกม Resident Evil Village มีกำหนดการวางจำหน่ายในช่วงปี 2021 So Ive said before that I know for a fact (before COVID) this game was launching a cross-gen game aiming for a January 2021 release date. Let me just say I got 100% confirm the game is still cross-gen, that will be revealed soon, release date is still aiming for first-half 2021. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) September 22, 2020 Credit: Gamingbolt    
22 Sep 2020
Resident Evill Village เผยความหลอนให้ได้เห็นครั้งแรกในงาน PS5 Showcase
หลังจากมีประกาศเปิดตัวเกมออกมา Resident Evill Village ต่างก็มีเสียงลืออ้างข้อมูลของเกมออกมามากมาย ในที่สุดภายในงาน PS5 Showcase ก็ได้มีการเผยให้เห็นความหลอนของตัวเกมกันแบบจัดเต็มแล้ว ถือว่างาน PS5 Showcase  ในครั้งนี้เปิดตัวกันแบบจัดเต็มแบบไม่หยุดยั้งกันจริงๆ เพราะเปิดเผยรายละเอียดของตัวเกมให้แฟนๆ ต่างได้รับการอัปเดตของตัวเกมที่เฝ้ารอคอยกันแบบจุใจ หนึ่งในเกมที่น่าจับตามองนั้นก็คือ Resident Evill Village ที่ทางผู้พัฒนาได้เผยให้เห็นเรื่องราวบางส่วนของตัวเกมพร้อมทั้งเหล่าศัตรูที่เราจะได้เจอในเกมให้ได้เห็นอีกด้วย โดยวิดีโอตัวอย่างเกมอันล่าสุดที่ทาง SONY ปล่อยออกมานั้นทำให้สามารถยืนยันข่าวลือที่ว่าตัวเกม Resident Evill Village  จะดำเนินเรื่องราวต่อจากภาคที่ 7 จริง และจะไขปริศนาบางอย่างเกี่ยวกับหมู่บ้านพร้อมทั้งอธิบายสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นระหว่าง Ethan กับ Mia ด้วยซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรคงต้องรอติดตามกันตัวเกมเต็มอีกครั้ง สำหรับวันวางจำหน่ายทางผู้พัฒนายังไม่ได้ออกมายืนยันเรื่องของวัน และเดือนอย่างชัดเจน ซึ่งจากแหล่งข่าวเดิมมีกำหนดว่าตัวเกมจะพร้อมให้ทุกคนเข้าสู่เกมใน 2021 ค่ะ
16 Sep 2020
ลือ !! รายละเอียด เนื้อเรื่อง , ไอเทม , ระบบ ของเกม Resident Evil Village
Capcom เดินหน้าพัฒนาเกมยุคใหม่ให้ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง Resident Evil Village ที่ประกาศเปิดตัว และจะพร้อมให้เล่นบนเครื่อง Console อย่าง PS5 และ Xbox Series X ก็นับเป็นอีกหนึ่งโปรเจคที่แฟ่นๆ จับตามอง ก่อนหน้านี้มีข้อมูลยืนยันการพัฒนาระบบของตัวเกมมาบางส่วนแล้ว แต่ยังคงต้องติดตามรายละเอียดส่วนนั้นเพิ่มต่อไป ล่าสุดทาง Dusk Golem ผู้ปล่อยข่าวลือของเกม Resident Evil ที่แม่นยำในหลายๆ ครั้ง ได้โพสต์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเล็กน้อยว่า ในภาคของ Resident Evil Village จะมีเนื้อเรื่องที่ดำเนินการต่อจากภาคเดิมๆ อย่าง Resident Evil 4 และ 5 เขายังกล่าวเพิ่มในเรื่องของรายละเอียดตัวเกมจะมีจุดให้ผู้เล่นได้สำรวจมากขึ้นเพื่อตามหาเก็บชิ้นส่วนสมบัติเพื่อสะสมในการแลกรับของเหมือนกับหลายๆ ภาคที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังได้สรุปว่าตัวเกมจะมีชุดอุปกรณ์แปลกใหม่เข้ามาเพิ่ม และตัวเกมที่เปิดกว้างขึ้นให้ผู้เล่นสามารถดำเนินเรื่องราวตอนจบได้หลายแบบ พร้อมทั้งตัวเกมจะมีเนื้อเรื่องยาวพอๆ กับภาค 4 หรือ 6 เลยด้วย Resident Evil Village จะพร้อมในทุกคนได้เล่นในปี 2021 บนเครื่อง PS5 , Xbox Series X และ PC (2/3) except theyre more hidden and theres entirely optional stuff to get riches. Youre more free to roam the town, but different parts of the Village have stuff going on & theres sorta "lock-in" points of stuff. Theres a mixture of more linear & more open places, with a — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 29, 2020 Just because I realize some people may take this last comment a bit out of context, let me clarify right now theres set-piece stuff, scripted moments, etc., just theres more wiggle room for exploration & moments of multiple objectives, more risk/reward opportunities. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 29, 2020 Okay LAST RE8 question then work. I dont know the exact play time but Ive heard pretty reliably out of the RE Engine games itll be the longest one. Not the absolute longest RE game, I personally suspect itll be shorter than RE6/RE4, but Ive heard its longer than RE7/RE2/RE3 https://t.co/GgcmfH88f0 — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 29, 2020 Credit: Gamingbolt   
01 Jul 2020
เจาะลึกตัวอย่างของเกม Resident Evil Village แบบ Shot ต่อ Shot
Resident Evil Village หรือ Resident Evil 8 ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลายๆ คนจับตามอง โดยเฉพาะเหล่าแฟนเกมที่มีมากมายมหาศาลทั่วโลก วันนี้พวกเรา GameFever TH จะมาเจาะลึก Trailer ให้มากกว่าที่เคย ในแบบ Shot ต่อ Shot กันเลย Mia เล่านิทานสยองให้ลูกฟัง Mia ได้เล่านิทานเกี่ยวกับหญิงสาวที่เดินเข้าไปในป่า ที่จะต้องเจอกับเรื่องราวสยองขวัญจน Ethan ต้องมาห้าม ซึ่งการเล่านิทานเรื่องนี้อาจจะแสดงให้เห็นถึงธีมเรื่องของภาคนี้ หรืออาจจะเป็นการที่ยังมีเชื้อจากภาคที่ 7 หลงเหลืออยู่ในตัวเธอ ทำให้พฤติกรรมบางอย่างของเธอเปลี่ยนไปก็เป็นได้ ชายสองคนกับการถูกโจมตีโดยอะไรบางอย่าง จากนั้น trailer จะตัดมาที่เรื่องราวของชายแก่คนหนึ่งที่เขากำลังเจอกับเรื่องราวบางอย่าง และสงสัยว่า Ethan อาจจะเป็นสายขององค์กรลับที่ถูกส่งมาจัดการกับเขา ระหว่างนั้นเองเหล่าสิ่งมีชีวิตลึกลับก็โจมตีใส่พวกเขา โดยในจุดนี้จะโชว์ถึงมุมมองการเล่นแบบ FPS อีกด้วย ลัทธิใหม่ที่ไม่เคยปรากฏในเกม Resident Evil มาก่อน Trailer ได้นำเราไปพบเจอกับสัญลักษณ์ของลัทธิประหลาดที่เป็นลักษณะของตัวอ่อนของมนุษย์ ล้อมรอบไปด้วยปีกอีกาสีดำอันแสนสยดสยอง โดยสัญลักษณ์นี้เราจะได้เห็นหลายครั้งในตัวอย่างทั้งในรูปแบบของรูปภาพ รูปปั้น และสัญลักษณ์ของพิธีกรรม นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์ของหญิงสาวที่ถือโล่หัวแพะและเหล่าปีศาจที่คลับคล้ายเหมือนกับลัทธิบูชาซาตาน สังเกตได้จากฉากประตูที่คล้ายกับการเป็นสัญลักษณ์ของขุมนรก ซึ่งเป็นส่วนที่คล้ายๆ กับ Puzzle ให้เราได้ไขปริศนากัน หมู่บ้านลึกลับเหมือนกับว่ายังคงอยู่ในยุคกลาง ภาพก็ได้ตัดมาที่เรื่องราวของหมู่บ้านลึกลับห่างไกลผู้คน ที่ Ethan และ MIA ได้หนีมาอยู่อาศัยหลังจากเหตุการณ์ในภาคที่ 7 ผ่านไปไม่นาน ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอีกาที่บินอย่างผิดปกติ หรือปศุสัตว์ที่ตายอย่างสยดสยอง พร้อมกับธีมของดินแดนกลางภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ เรื่องราวของตัวละครใหม่ ตัวอย่างเกมได้นำเสนอเรื่องราวของตัวละครใหม่ 3 ตัวละครใหม่(ที่มาใน Trailer) ในหมู่บ้านซึ่งถือว่าเป็นตัวครใหม่ในซีรีส์ Resident Evil โดยพวกเขาเหมือนว่ากำลังกลัวอะไรบางอย่างหรือเจอเรื่องราวสุดสะพรึงจนไม่สามารถเล่าได้ อันประกอบไปด้วยคนสามคนได้แก่ ชาวแก่ที่ถือปืนโบราณ มนุษย์ลุงคนหนึ่งและหญิงสาวชุดดำ ที่รอให้ผู้เล่นได้ค้นหาว่าพวกเขาเป็นใคร สัญลักษณ์ของ Umbrella ปรากฏอีกครั้ง หลังจากเกม Resident Evil 3 เป็นต้นมาองค์ Umbrella ตกต่ำลงอย่างชัดเจน จนทำให้องค์กรอื่นๆ สามารถที่จะแซงหน้าขึ้นมาได้ อย่าง The Contention ที่ได้กลายเป็นองค์กรใหญ่และมีข่าวลือว่าเป็นองค์กรร้ายในภาคนี้ ซึ่งการที่มีสัญลักษณ์ Umbrella แสดงว่าทั้งสององค์กรนี้อาจจะมีบางอย่างที่เชื่อมกันอยู่ก็เป็นได้ แม่มดแห่งศตวรรษที่ 21? หากนึกถึงยุคกลางหลายๆ คนต้องนึกถึงบรรดาเหล่าแม่มดเป็นแน่แท้ โดยในตัวอย่างของเกมเราจะเห็นหญิงชราคนหนึ่งที่แต่งตัวแปลกๆ ราวกับว่าเป็นแม่มด และเหมือนว่าเธอมีแผนการบางอย่างในใจ ซึ่งไม่แน่เธออาจจะเป็นตัวแปรสำคัญในลัทธิลึกลับก็เป็นได้ เหล่าขุนนางชั้นสูงกับองค์กรลึกลับ ในขณะที่คนในหมู่บ้านมักจะแต่งตัวอย่างสามัญชน เราจะเห็นได้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งแต่งตัวดูดีกว่าอย่างชัดเจน รวมถึงอยู่ในปราสาทหรู โดยมีสตรีสูงศักดิ์สวมชุดสีขาวเป็นเหมือนกับคนคอยบงการเรื่องราวต่างๆ ซึ่งดูเหมือนว่าสตรีกลุ่มนี้จะมีพลังพิเศษ รวมถึงความวิกลจริตที่ยากจะหาใครเทียบได้และดูเหมือนว่าพระเอก บุคคลปริศนา หนึ่งในสิ่งที่หลายๆ คนสงสัยในภาคนี้ว่าเขาเป็นใคร โดยสมมุติฐานแบ่งออกเป็นสองสายคือ Luis Sera (Resident Evil 4) ที่แม้ว่าเขาจะถูก Osmund Saddler ฆ่าตายไปแล้ว แต่ในจักรวาลของ Resident Evil ทุกๆ อย่างเป็นไปได้เสมอ อีกทั้งธีมของภาคนี้เองก็เป็นยุโรปในยุคกลางทำให้เป็นไปได้สูงว่านี่อาจจะเป็นเขา ในอีกสมมุติฐานหนึ่งนี่อาจจะเป็นตัวละคร Daniel Fabron นักวิทยาศาสตร์มือขวาของ Alex wesker ที่อาจจะแปรพักต์ไปอยู่กับ The Connection ก็เป็นไปได้เช่นกัน มนุษย์หมาป่าและ Executioner ตามข่าวลือที่หลุดมาก่อนหน้านี้แบบตรงเป๊ะสำหรับศัตรูของภาคนี้ที่จะเป็นมนุษย์หมาป่า ทำให้ภาคนี้ธีมของเกมจะไม่ใช่การตะลุยดงผีดิบ ซึ่งในเกม Resident Evil 7 ทาง Capcom ก็ได้พยายามที่จะนำเสนอศัตรูชนิดใหม่มาให้เหล่าผู้เล่นได้สัมผัส ซึ่งการมีมนุษย์หมาป่าเช่นนี้ก็เป็นที่น่าสนใจว่าทีมงานจะมาไม้ไหน นอกจากมนุษย์หมาป่าแล้ว Executioner  หรือมนุษย์ค้นยักษ์ยังคงตามมาหลอกหลอนเหล่าผู้เล่นในภาคนี้ ทำให้นี่คือการปะทะกันครั้งแรกของ Ethan กับศัตรูตัวนี้ ในส่วนของความโหดนั้นคงต้องรอพิสูจน์เอาในเกม Chris Redfield ในบทของตัวร้าย? ทำเอาเหล่าแฟนๆ Resident Evil ต้องนั่งดู Trailer กันหลายๆ รอบลอยทีเดียวเมื่อ Chris มาพร้อมกับเหล่า Blue Umbrella บุกไปยังบ้านของ Ethan พร้อมสังหารภรรยาของเขาอย่างไร้ความปราณี ทำเอาแฟนๆ ตั้งคำถามว่าเขาทำไมต้องทำแบบนี้ วัตถุประสงค์จริงๆ คืออะไรกันแน่ Resident Evil 8 มีกำหนดการวางจำหน่ายในปี 2021 อ้างอิง Resident Evil 8 Trailer Resident Evil Fandom gamesradar
29 Jun 2020
ข่าวลือ! Resident Evil 8 อาจจะรองรับระบบ VR!
จากเกมใหม่ทั้งหมดที่ประกาศลงเครื่อง PlayStation 5 นั้น Resident Evil 8 เป็นเกมที่แฟนๆ ตื่นเต้นเป็นพิเศษ นับแต่การวางจำหน่ายของภาค 7 แฟนๆ ก็รอการมาของภาค 8 มาโดยตลอด และในตอนนี้ได้มีการข่าวลือเรื่องใหม่มาว่าภาคนี้จะรองรับ PlayStation VR ด้วยครับ นับตั้งแต่การเปิดตัวของ Resident Evil 8 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน เราก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับเกมเพิ่มเติมมากนัก แต่ก็ได้มีข่าวลือจำนวนมากแพร่กระจายไปทั่วโลกออนไลน์จากนักปล่อยข่าวลือรายหนึ่งที่หลายๆ คนรู้จักกันดี Dusk Golem โพสต์ข้อความบน Twitter ของตัวเองยืนยันว่า การรองรับ PlayStation VR สอดคล้องกับอัตราเฟรมเรทของเกม แม้ว่าตัว Dusk Golem จะเคยบอกว่า เกมนี้จะไม่รองรับ PSVR แต่ตอนนี้เกมดังกล่าวดูเหมือนจะยอมรับระบบนี้เมื่อพิจารณาจากความนิยมของ Resident Evil 7 VR อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ดังนั้นผู้เล่นทุกท่านไม่จำเป็นที่จะต้องคาดหวังมากจนเกินไปนัก นอกเสียจากว่าทาง Capcom หรือ ทีมผู้พัฒนาออกมาประกาศในเรื่องนี้ For anyone worried about RE8s frame rate, dont. The trailer played kinda weirdly on the stream, but the game does support PSVR from what I hear so they will be aiming for a stable 60fps. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 11, 2020 Credit : Gamerant สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
23 Jun 2020
ลือ! เหตุที่ Resident Evil 8 ไม่ลง PS4 เป็นเพราะสเปคเครื่องต่ำเกินไป
Resident Evil 8 มีกำหนดจะวางจำหน่ายบน PS5 ในช่วงปี 2021 ซึ่งก่อนที่เกมนี้จะเป็นตัวอย่างเป็นทางการ เราก็ได้เห็นข่าวลือต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเกมนี้ถูกปล่อยออกมา และหนึ่งในข่าวลือที่สุดท้ายแล้วก็เป็นได้แค่ข่าวลือก็คือเรื่องที่เกมนี้จะลงข้ามรุ่นระหว่าง PS4 และ PS5 ครับ Dusk Golem ที่แฟนเกมซีรีส์ Resident Evil ส่วนใหญ่จะรู้จักกันดีจากการที่เป็นคนปล่อยข่าวลือของเกมซีรีส์นี้เป็นคนแรกเสมอ (ส่วนใหญ่จะเป็นความจริงด้วย) และล่าสุดเขาได้โพสต์ข้อความบน Twitter บอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าทำไม Resident Evil 8 ถึงไม่ลงใน Console รุ่นปัจจุบัน Dusk Golem กล่าวว่าที่ Resident Evil 8 ไม่ลงในเครื่อง Console รุ่นปัจจุบันอย่าง PS4 เนื่องจากเหตุผลด้านสเปคของเครื่อง หากทีมพัฒนาจะทำให้ตัวเกมลงในเครื่อง PS4 ได้ พวกเขาจะต้องลดคุณภาพของเกมลงมากๆ เนื่องจากตัวเกมมี Load Zone ที่เยอะ ทำให้เกิดการใช้เวลาโหลดฉากนาน ดังนั้นผู้พัฒนาจึงตัดสินใจที่จะปล่อยตัวเกมเฉพาะ Console รุ่นถัดไป เพื่อให้เกมนั้นไม่มีการโหลดฉากเลย เรื่องนี้มีความน่าเชื่อถือมากครับ เมื่อมองจากคุณภาพของกราฟิกที่เราได้ดูจากตัว Trailer ที่ปล่อยออกมา ตัวเกมจะมีทั้งภูมิประเทศที่เต็มไปด้วยหิมะที่สวยงาม, มนุษย์หมาป่า, และแม่มด ดังนั้นถ้าจะบอกว่าเกม RE8 จำเป็นต้องใช้ความสามารถของเครื่องที่สูงจึงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกินจริง (1/3) Okay, I got some clarification on why they made RE8 next-gen only, when it was cross-gen previously. With the updated graphic fidelity overhaul theyre doing (still in progress), the way RE8 was designed lead to past-gen consoles having a lot of pop-in/long texture loads/ — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 13, 2020 (2/3) load times because the game has you travelling through most of the Village and had a lot of load zones. Because theres a bigger focus on exploration this would lead to the last-gen console versions having notable issues, and it was holding back how pretty they could make — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 13, 2020 (3/3) certain scenes. So they decided to drop the last-gen versions of the game to make it so the game had no loading at all (not limited by last gen hardware) and push the graphic overhaul further without the limitations of last-gen tech in mind. — AestheticGamer aka Dusk Golem (@AestheticGamer1) June 13, 2020 Credit : PSU สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
15 Jun 2020
เปิดตัว Resident Evil 8: Village กับการรับบทเป็น Ethan อีกครั้งบนหมู่บ้านประหลาด
หลังจากที่มีข่าวลือมานานสำหรับ Resident Evil 8 ล่าสุดก็เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วในงาน The Future of Gaming ของทาง PlayStation โดยเกมภาคนี้ใช้ชื่อว่า Resident Evil 8: Village ซึ่งตัวละครที่เราได้เล่นก็จะเป็น Ethan Winters และมุมมองภายในเกมก็จะกลับไปใช้มุมมองแบบ 1st Person เช่นเดิม เรื่องราวของภาคนี้เราจะต้องเอาตัวรอดจากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่จะต้องพบเจอกับทั้งแม่มดและมนุษย์หมาป่าพร้อมกับคนประหลาดอีกมากมาย ซึ่งตรงตามข่าวลือก่อนหน้าที่เคยออกมาทุกอย่าง ( LINK ) และที่เซอร์ไพรส์ก็คือหนึ่งในตัวละครหลักของซีรีส์นี้อย่าง Chris Redfield เองก็ยังมีบทบาทในภาคนี้เช่นเดิม เพียงแต่ว่ารูปร่างของเขานั้นดูอ้วนและแก่มากขึ้น Resident Evil 8: Village มีกำหนดวางจำหน่ายในปี 2021 บนเครื่อง PS5 Credit: Gamingbolt
11 Jun 2020
รายการพรีออเดอร์เกม Resident Evil 8 ปรากฏบนหน้าเว็บร้านขายเกมของเยอรมัน
Resident Evil คือซีรีส์เกมที่มีแฟนเกมเฝ้ารอภาคต่ออยู่เป็นจำนวนมาก และแม้เราจะไม่รู้รายละเอียดของ Resident Evil 8 ที่เป็นภาคใหม่ของซีรีส์เกมนี้มากนัก แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าชื่อของเกมนี้ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าเว็บร้านขายเกมของเยอรมัน แถมยังให้พรีออเดอร์ได้ด้วยครับ! เว็บร้านขายเกมของเยอรมันที่ว่าคือร้าน GamesOnly โดยรายการสั่งซื้อดังกล่าวได้ถูกลบไปในเวลาต่อมา แต่ก็มีคนเก็บภาพเอาไว้ได้ ข้อมูลที่ทางร้านเขียนในข้อมูลสินค้ามีไม่มากนัก ไม่มีวันวางจำหน่าย มีเพียงราคา กับรูปปกเกมที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น แต่ชื่อภาคเกมในรายการสั่งซื้อนั้นได้อิทธิพลมาจากข่าวลือเรื่องชื่อเกมภาคนี้จะใช้ชื่อว่า Village มันยากที่จะบอกว่าเรื่องนี้มีอะไรเกี่ยวกับเกมที่กำลังจะประกาศเร็วๆ นี้หรือไม่ แต่เรารู้ว่า Capcom กำลังวางแผนที่จะทำบางอย่างในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ มันอาจเป็นการประกาศเรื่อง Resident Evil 8 ก็ได้ครับ Credit: Gamingbolt สำหรับข่าวสารเกมที่น่าสนใจ คลิ๊ก!
09 Jun 2020
ลือ !! Resident Evil 8 จะรองรับระบบ VR เหมือนเดิม
ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับตัวเกม Resident Evil 8 ออกมามาหมาย ( Link ) รวมถึงยังมีการพูดกันอีกว่าตัวเกมภาคนี้ก็ยังจะกลับไปใช้การเล่นแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งดั่งใน Resident Evil 7 ซึ่งมันก็สอดคล้องกับข้อมูลใหม่ว่า เกมภาคล่าสุดนี้ก็ยังจะรองรับการเล่นแบบ VR เช่นเดิม ซึ่งถ้าหากว่า Resident Evil 8 มุมมองการเล่นแบบบุคคลที่หนึ่งจริง มันก็พอจะเดาได้แหละว่าตัวเกมน่าจะรองรับ VR อย่างแน่นอน ซึ่งกระแสของระบบนี้ก็ค่อนข้างเข้ากันกับเกมอยู่แล้ว ดูได้จากสิ่งที่เคยทำไปใน Resident Evil 7 ที่มันสร้างความน่ากลัวได้มากขึ้น แต่กระแสที่แบ่งกันเป็นสองฝ่ายน่าจะอยู่ที่มุมมองของเกมมากกว่า เพราะหลายๆ คนเองก็ชอบแบบการเล่นมุมมองบุคคลที่สามดั่งเกม Resident Evil 2-3 Remake มากกว่ามุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่าง Resident Evil 7 เพราะมันให้อารมณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเหมือนเกมคนละซีรีส์ ลือว่า !! Resident Evil 8 อาจจะวางจำหน่ายในปี 2021 เป็นเกม Cross-Gen รวมถึงยังมีข่าวอีกว่ากำลัง Remake เกม Resident Evil 4 อีกด้วย ที่มา Gamingbolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
14 Apr 2020
หลุดข้อมูลชุดใหญ่! เกม Resident Evil 8: Village จากคนที่ได้ไปเล่น Test Demo
เรียกได้ว่ามาแรงแบบหยุดไม่อยู่จริงๆ กับเกมซีรีส์ Resident Evil เพราะหลังจากที่เกม Resident Evil 3 Remake วางจำหน่ายได้ไม่นาน เมื่อคืนนี้ก็มีข่าวลือเกี่ยวกับเกม Resident Evil 8 ว่าจะวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้าออกมา สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนๆ เป็นอย่างมาก แต่นั้นยังไม่ใช้ทั้งหมดครับ เพราะล่าสุดก็มีข้อมูลชุดใหญ่มากๆ หลุดออกมาบนโลกอินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ที่ปล่อยออกมาได้อ้างว่า นี้เป็นข้อมูลที่เขาได้มาจากเหล่าคนที่ได้เข้าไปเล่นเกมตัว Test Demo มาครับ! ข้อมูลชุดใหญ่ในครั้งนี้ถูกปล่อยออกมาทางเว็บไซต์ Relyonhorror ซึ่งภายในโพสต์ดังกล่าวได้มีการเปิดเผยข้อมูลที่ผู้เขียนอ้างว่าได้มาจากเหล่าคนที่เข้าไปเล่นตัว Test Demo ของเกม ซึ่งทางเราได้แปล และสรุปให้เข้าใจง่ายๆ เอาไว้แล้ว สามารถอ่านได้ข้างล่างนี้เลยครับ Resident Evil 8 มีชื่อภาคว่า VILLAGE: RESIDENT EVIL,  โดยตัวอักษร VILL ถูกใช้เป็นตัวแทนของเลข 8 เหมือนกับกับ RE7 ที่ใช้เลขโรมันแทนที่จะเป็นเลขอารบิก ฉากเปิดของเกมจะเป็นเหมือนว่า ตัวละครเราเกิดอาการช็อกจากการโดนบางสิงบางอย่าง (เหมือนโดน Flash Bang หรือ Stun Grenade ) ก่อนที่ Chris Redfield จะเข้ามาช่วยเรา ซึ่ง Model ของ Chris ที่เหล่าคนที่ได้เข้าไปเล่นตัว Test Demo เล่าให้ฟังนั้นแตกต่างกันออกไป บ้างก็ว่าเหมือนใน RE7 บ้างก็ว่าไม่เหมือน Chris ในภาคไหนเลย, และมีบางคนบอกว่าจะได้เห็น Mia Winters ที่กำลังตั้งครรภ์ในภาคนี้ด้วย แต่บ้างก็บอกว่าลูกของเธอได้คลอดออกมาแล้ว Ethan จะยังคงเป็นพระเอกของภาคนี้ และเขายังคงเป็นคนที่ฉลาด แต่มีอารมณ์ที่ร้อนง่ายเหมือนเดิม มีการทดลองใช้ Inventory หลายแบบมากๆ บางคนได้เล่นเวอร์ชั่นที่ใช้ Inventory แบบเดียวกับภาค 7 , บางคนได้เล่นเวอร์ชั่นที่ใช้ระบบกล่องแบบเดียวกับภาค 4 ในเวอร์ชั่น Demo เกมจะเริ่มในหมู่บ้านแห่งหนึ่งบนภูเขาหิมะ เราจะได้เล่นเป็น Ethan สำรวจสถานที่ต่างๆ ในหมู่บ้าน ได้คุยกับเหล่า NPC เพือ่อดำเนินเนื้อเรื่อง แต่เหล่า NPC ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ ภาคนี้จะมีศัตรูแบบใหม่ที่เป็นมนุษย์หมาป่าด้วย ในจุดนี้คำพูดของคนที่ได้เข้าไปทดลองเล่นมีด้วยกัน 2 แบบคือ 1). เราจะไม่มีอาวุธอะไรเลย และจำเป็นต้องพยายามหลบ หรือย่องผ่านเอา, 2). Ethan จะมีปืนสั้น แต่ว่ากระสุนจากปืนสั้นจะไม่สามารถทำอะไรพวกมนุษย์หมาป่าได้เลย สรุปก็คือต้องหลบ หรือไม่ก็ย่องหนีเหมือนกัน ผู้เล่นจะมีปืนลูกซองให้ใช้ในภาคนี้เหมือนกัน และมันสามารถทำสู้กับพวกมนุษย์หมาป่าได้ดีกว่า อีกทั้งยังสามารถสร้าง barricade เพื่อใช้ในการชะลอการโจมตีของศัตรูได้ ในบางเวอร์ชั่นเมื่อสู้ไปสักพักจะมีเสียงระฆังดังขึ้น แล้วเหล่ามนุษย์หมาป่าจะวิ่งหนีไป เหมือนกับว่าพวกมันถูกเรียกโดยบางสิ่งบางอย่าง ตัวเกมให้บรรยากาศที่เหมือนกับ Resident Evil 4 มากๆ เหล่ามนุษย์หมาป่าจะมีหัวหน้าด้วย ซึ่งเธอเป็นตัวละครเพศหญิง ที่มีรูปร่างใหญ่โตเหมือน Gorilla ซึ่ง Ethan จะโดนเธอตามล่าอย่างไม่หยุดหย่อน และเธอมีเสียงหัวเราะที่มีเอกลักษณ์มากๆ ผู้เล่นจะรู้ได้ทันที่เลยว่าเธออยู่ใกล้ๆ แล้ว ใน Demo บางเวอร์ชั่นก็เป็นการหนีออกจากปราสาทแทน ผู้เล่นจะได้พบกลุ่มชาวบ้าน ก่อนที่จะคุยกันถึงเรื่องสถานที่ซึ่งจะใช้หลบภัย อยู่ดีๆ ชาวบ้านคนหนึ่งในกลุ่มก็เกิดอาการคลุ้มคลั่ง เริ่มโจมตีและฆ่าคนอื่น ผู้เล่นจะได้รับการช่วยเหลือจากผู้หญิงคนหนึ่งให้เข้าไปหลบในบ้าน ในขณะที่ชาวบ้านที่คลุ้มคลั่งเริ่มที่จะจุดไฟเผาบ้านหลังนั้น นับว่าเป็นข้อมูลชุดใหญ่จริงๆ ที่หลุดออกมาในครั้งนี้ แต่ผู้เขียนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอันไหนจริง อันไนหเท็จ ขนาดตอนที่นั่งอ่านเองยังมีความรู้สึกว่ามันหลุดจากคำจำกัดความเกี่ยวกับ Resident Evil ที่มีในหัวไปไกลมากๆ เลยเหมือนกัน ต้องรอดูต่อไปว่า ข้อมูลเหล่านี้จะจริงแค่ไหนครับ Credit: Relyonhorror ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่
08 Apr 2020